ฝึกสุนัข โทร 0870062828

ทำอย่างไร!? กับนิสัยขี้หวงและดุของสุนัขบางแก้ว

ทำอย่างไร!? กับนิสัยขี้หวงและดุของสุนัขบางแก้ว

สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขที่มีความฉลาดและซื่อสัตย์ แต่ก็มีนิสัยหวงของและดุได้เช่นกัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติของสุนัขหลายสายพันธุ์ การแก้ไขปัญหานี้ต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจในพฤติกรรมของสุนัข

Home / การฝึกสุนัข

ประวัติสุนัข

สาเหตุที่สุนัขบางแก้วขี้หวง

  • การปกป้องทรัพย์สิน: สุนัขมองว่าของเล่น อาหาร หรือแม้แต่เจ้าของเป็นทรัพย์สินส่วนตัว
  • ความไม่มั่นคง: สุนัขที่รู้สึกไม่มั่นคงอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อปกป้องตัวเอง
  • ประสบการณ์ในอดีต: ประสบการณ์ที่ไม่ดี เช่น การถูกแย่งของเล่น อาจทำให้สุนัขกลัวและหวงของมากขึ้น

วิธีแก้ไข

  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดี:

    • ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน: เล่นกับสุนัขเป็นประจำ สร้างความผูกพัน
    • ให้รางวัล: เมื่อสุนัขทำพฤติกรรมที่ดี ให้รางวัล เช่น อาหาร ขนม หรือคำชม
    • สัมผัสตัวบ่อยๆ: สัมผัสตัวสุนัขเบาๆ เพื่อให้สุนัขคุ้นเคยกับการถูกสัมผัส
  • ฝึกอบรม:

    • ฝึกคำสั่งพื้นฐาน: เช่น นั่ง รอ มานี่ เพื่อให้สุนัขเชื่อฟังคำสั่ง
    • ฝึกให้สุนัขปล่อยของ: เมื่อสุนัขคาบของเล่น ให้สั่งให้ปล่อยแล้วให้รางวัล
    • ฝึกให้สุนัขแบ่งปัน: ฝึกให้สุนัขแบ่งของเล่นหรืออาหารกับสุนัขตัวอื่นหรือเจ้าของ
  • จัดการสภาพแวดล้อม:

    • กำหนดพื้นที่ส่วนตัว: ให้สุนัขมีพื้นที่ส่วนตัวที่ปลอดภัย
    • เก็บของเล่น: เก็บของเล่นเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อลดการหวงของ
    • ให้อาหารในที่สงบ: เลือกที่ให้อาหารที่เงียบสงบและไม่มีการรบกวน
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:

    • สัตวแพทย์: ตรวจสุขภาพสุนัขเพื่อตรวจหาโรคที่อาจเป็นสาเหตุของพฤติกรรมก้าวร้าว
    • ผู้ฝึกสุนัข: ขอคำแนะนำจากผู้ฝึกสุนัขมืออาชีพ

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ลงโทษทางกาย: การลงโทษจะทำให้สุนัขกลัวและอาจทำให้พฤติกรรมเลวร้ายลง
  • ดึงของเล่นออกจากปาก: อาจทำให้สุนัขกัด
  • ปล่อยปละละเลย: การไม่สนใจปัญหาจะทำให้ปัญหาเลวร้ายลง

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • อดทน: การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสุนัขต้องใช้เวลา
  • สม่ำเสมอ: ฝึกสุนัขเป็นประจำทุกวัน
  • สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย: ให้สุนัขรู้สึกปลอดภัยขณะฝึก

คำแนะนำ:

บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

ด้วย 2 ใบประกาศหลักสูตรครูฝึกสุนัขตำรวจและวิทยากรระดับนานาชาติเกี่ยวกับหัวข้อพฤติกรรมของมนุษย์กับสุนัข รวมทั้งให้ความรู้ในคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารสัตว์เลี้ยงชั้นแนวหน้าหลายฉบับอาทิ สื่อรักสัตว์เลี้ยง,แหล่งสัตว์เลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขในโครงการฝึกสุนัขไร้บ้านให้มีบ้านอยู่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

อาหารและวิธีเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์บางแก้วและวิธีฝึก

อาหารและวิธีเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์บางแก้วและวิธีฝึก

สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขพันธุ์ไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและนิสัยซื่อสัตย์ จึงได้รับความนิยมอย่างมากในการเลี้ยง การดูแลสุนัขบางแก้วให้แข็งแรงสมบูรณ์นั้นจำเป็นต้องให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องอาหารและวิธีการเลี้ยงดูที่ถูกต้อง

Home / การฝึกสุนัข

ประวัติสุนัข

อาหารสำหรับสุนัขบางแก้ว

1. อาหารสำเร็จรูป:

  • เลือกสูตรสำหรับสุนัขพันธุ์ใหญ่: เนื่องจากบางแก้วเป็นสุนัขขนาดกลางถึงใหญ่ จึงควรเลือกอาหารสูตรที่ออกแบบมาสำหรับสุนัขพันธุ์ใหญ่โดยเฉพาะ
  • พิจารณาอายุ: อาหารสำหรับลูกสุนัขจะมีปริมาณโปรตีนและแคลเซียมสูงกว่าอาหารสำหรับสุนัขโต ควรเลือกให้เหมาะสมกับวัย
  • คุณภาพ: เลือกอาหารที่มีส่วนผสมจากวัตถุดิบคุณภาพสูง มีโปรตีนสูง ไขมันพอเหมาะ และมีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน

2. อาหารสด:

  • เนื้อสัตว์: ให้เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น ไก่ เนื้อวัว หรือปลาทะเล ปรุงสุกสุก
  • ผัก: ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง ผักกาดขาว ควรล้างให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  • ข้าว: ข้าวสวยหรือข้าวกล้อง
  • ไข่: ให้ไข่ต้มสุกสุกสัปดาห์ละ 1-2 ฟอง
  •  

ข้อควรระวัง:

  • หลีกเลี้ยงอาหารที่เป็นอันตราย: เช่น ช็อกโกแลต หอมแดง กระเทียม อโวคาโด
  • ปริมาณ: ปรับปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับขนาดและกิจกรรมของสุนัข
  • น้ำสะอาด: ควรมีน้ำสะอาดให้สุนัขดื่มตลอดเวลา

วิธีการเลี้ยงสุนัขบางแก้ว

  • ออกกำลังกาย: บางแก้วเป็นสุนัขที่มีพลังงานสูง ควรพาออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดินเล่น วิ่งเล่น หรือเล่นเกม
  • ฝึกอบรม: ฝึกอบรมสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่ง ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้มีระเบียบวินัย
  • ดูแลสุขภาพ: พาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ ฉีดวัคซีนป้องกันโรค กำจัดเห็บหมัด
  • รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดที่อยู่อาศัยของสุนัขเป็นประจำ อาบน้ำตัดขนตามความเหมาะสม
  • ให้ความรัก: สุนัขต้องการความรักและความเอาใจใส่จากเจ้าของ

เคล็ดลับในการเลี้ยงสุนัขบางแก้ว

  • สังคม: พาไปพบปะกับสุนัขตัวอื่นๆ เพื่อให้เข้าสังคมได้ดี
  • อดทน: การฝึกอบรมสุนัขต้องใช้เวลาและความอดทน
  • สังเกตอาการผิดปกติ: หากสุนัขมีอาการผิดปกติ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

วิธีฝึกสุนัขบางแก้ว: สู่มิตรภาพที่แข็งแกร่ง

สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขพันธุ์ไทยที่มีความฉลาดและซื่อสัตย์ แต่ก็มีนิสัยที่แข็งแกร่ง การฝึกสุนัขบางแก้วจึงต้องอาศัยความอดทน ความรัก และวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เหตุผลที่ต้องฝึกสุนัขบางแก้ว

  • ความปลอดภัย: การฝึกอบรมพื้นฐานจะช่วยให้สุนัขตอบสนองต่อคำสั่ง และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
  • พฤติกรรมที่ดี: สุนัขที่ได้รับการฝึกฝนจะมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น เช่น ไม่กัด ไม่เห่ารบกวน
  • ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น: การฝึกสุนัขจะช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าของและสุนัข

เทคนิคการฝึกสุนัขบางแก้ว

  • เริ่มต้นตั้งแต่ยังเล็ก: การฝึกตั้งแต่ยังเล็กจะทำให้สุนัขเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น
  • ความสม่ำเสมอ: ฝึกสุนัขเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 15-20 นาที
  • รางวัล: เมื่อสุนัขทำตามคำสั่ง ให้รางวัล เช่น อาหาร ขนม หรือคำชม
  • ความอดทน: การฝึกสุนัขต้องใช้เวลาและความอดทน อย่าใจร้อน
  • ความรัก: แสดงความรักและความเอาใจใส่ต่อสุนัขเสมอ

คำสั่งพื้นฐานที่ควรฝึก

  • มานี่: ฝึกให้สุนัขมาหาเมื่อเรียก
  • นั่ง: ฝึกให้สุนัขนั่ง
  • รอ: ฝึกให้สุนัครออยู่กับที่
  • ไม่: ฝึกให้สุนัขหยุดทำพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์

เทคนิคเพิ่มเติม

  • ใช้เสียงที่นุ่มนวล: หลีกเลี่ยงการตะโกนหรือลงโทษทางกาย
  • สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย: ให้สุนัขรู้สึกสบายใจขณะฝึก
  • ฝึกในสถานที่ต่างๆ: เพื่อให้สุนัขคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง
  • ขอคำปรึกษา: หากมีปัญหาในการฝึกสุนัข สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกสุนัขได้

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ลงโทษทางกาย: การลงโทษทางกายจะทำให้สุนัขกลัวและไม่เชื่อฟัง
  • ให้รางวัลมากเกินไป: อาจทำให้สุนัขติดรางวัลและไม่ทำตามคำสั่งหากไม่มีรางวัล
  • ปล่อยปละละเลย: การไม่สนใจสุนัขจะทำให้สุนัขมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์

ข้อควรจำ

  • สุนัขทุกตัวมีความแตกต่างกัน: อัตราการเรียนรู้ของแต่ละตัวไม่เท่ากัน
  • ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ: อย่าท้อแท้หากสุนัขยังไม่เข้าใจ
  • สนุกกับการฝึก: การฝึกสุนัขควรเป็นกิจกรรมที่สนุกสำหรับทั้งคุณและสุนัข

การฝึกสุนัขบางแก้วไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณมีความรัก ความอดทน และใช้วิธีการที่ถูกต้อง สุนัขของคุณก็จะกลายเป็นเพื่อนที่น่ารักและเชื่อฟังคำสั่ง

ทำโทษทางร่างกายเพราะนั่นจะทำให้เค้ากลัวคุณมากกว่าการเปลี่ยนนิสัยแต่ว่ามีสนัขบางชนิด

บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

ด้วย 2 ใบประกาศหลักสูตรครูฝึกสุนัขตำรวจและวิทยากรระดับนานาชาติเกี่ยวกับหัวข้อพฤติกรรมของมนุษย์กับสุนัข รวมทั้งให้ความรู้ในคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารสัตว์เลี้ยงชั้นแนวหน้าหลายฉบับอาทิ สื่อรักสัตว์เลี้ยง,แหล่งสัตว์เลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขในโครงการฝึกสุนัขไร้บ้านให้มีบ้านอยู่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

ลักษณะสายพันธุ์และนิสัยสายพันธุ์บางแก้ว

ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย

 คู่มือเลือกสุนัขคู่ใจ

Home / การฝึกสุนัข

ประวัติสุนัข

อยากมีสุนัขสักตัวแต่ไม่รู้จะเลือกลูกหมาน้อยสายพันธุ์ไหนดี?

การเลือกสุนัขมาเป็นเพื่อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะแต่ละสายพันธุ์ก็มีลักษณะเด่น นิสัย และความต้องการที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับลักษณะสายพันธุ์และนิสัยของสุนัขยอดนิยม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสุนัขที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณมากที่สุด

ทำไมต้องรู้จักลักษณะสายพันธุ์และนิสัย?

  • เข้าใจพฤติกรรม: การรู้จักลักษณะนิสัยของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของสุนัขได้ดีขึ้น และสามารถปรับตัวเข้าหากันได้อย่างราบรื่น
  • การดูแลที่ถูกต้อง: แต่ละสายพันธุ์มีความต้องการในการดูแลที่แตกต่างกัน เช่น ปริมาณอาหาร การออกกำลังกาย และการดูแลขน การรู้จักลักษณะของสุนัขจะช่วยให้คุณดูแลสุนัขได้อย่างถูกต้อง
  • ปัญหาสุขภาพ: บางสายพันธุ์อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคบางชนิด การรู้จักลักษณะของสุนัขจะช่วยให้คุณเตรียมตัวรับมือกับปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้
  • เลือกสุนัขที่เข้ากับไลฟ์สไตล์: แต่ละสายพันธุ์มีระดับพลังงานและความต้องการทางสังคมที่แตกต่างกัน การเลือกสุนัขที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ จะทำให้ทั้งคุณและสุนัขมีความสุข

ตัวอย่างสายพันธุ์สุนัขยอดนิยมและลักษณะเด่น

  • โกลเด้น รีทรีฟเวอร์: เป็นสุนัขที่อ่อนโยน ขี้เล่น ชอบเข้าสังคม เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
  • ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์: เป็นสุนัขที่ฉลาด ขยัน และมีพลังงานสูง ต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ
  • ชิสุห์: เป็นสุนัขขนาดเล็ก ขนยาว เหมาะสำหรับเลี้ยงในอพาร์ตเมนต์ แต่ต้องการการดูแลขนอย่างสม่ำเสมอ
  • ปอมเมอเรเนียน: เป็นสุนัขขนาดเล็ก ขนฟู มีนิสัยขี้เล่นและซุกซน
  • เยอรมัน เชพเพิร์ด: เป็นสุนัขที่ฉลาด ซื่อสัตย์ และมีความสามารถในการทำงานสูง เหมาะสำหรับการฝึกอบรม
  • บีเกิ้ล: เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริง ชอบดมกลิ่น และมีพลังงานสูง

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกสุนัข

  • ขนาด: พิจารณาถึงพื้นที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ของคุณ
  • ระดับพลังงาน: เลือกสุนัขที่มีระดับพลังงานที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ
  • ความต้องการทางสังคม: พิจารณาว่าคุณมีเวลาให้สุนัขมากน้อยแค่ไหน
  • ปัญหาสุขภาพ: ศึกษาเกี่ยวกับโรคที่พบบ่อยในสายพันธุ์นั้นๆ
  • งบประมาณ: ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสุนัข เช่น อาหาร อุปกรณ์ และค่ารักษาพยาบาล

สิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจเลี้ยงสุนัข

  • ศึกษาข้อมูล: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัขที่คุณสนใจให้ละเอียด
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ปรึกษาสัตวแพทย์หรือผู้เลี้ยงสุนัขที่มีประสบการณ์
  • ไปเยี่ยมชมฟาร์มสุนัข: ไปเยี่ยมชมฟาร์มสุนัขเพื่อสังเกตพฤติกรรมของลูกสุนัข
  • เตรียมพร้อม: เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเลี้ยงสุนัข เช่น อาหาร ที่นอน และอุปกรณ์ทำความสะอาด

การเลี้ยงสุนัขเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ การเลือกสุนัขที่เหมาะสมจะทำให้คุณมีเพื่อนคู่ใจที่น่ารักและซื่อสัตย์ไปตลอดชีวิต

หมายเหตุ: บทความนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น คุณควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัขที่คุณสนใจก่อนตัดสินใจเลี้ยง

 

บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

ด้วย 2 ใบประกาศหลักสูตรครูฝึกสุนัขตำรวจและวิทยากรระดับนานาชาติเกี่ยวกับหัวข้อพฤติกรรมของมนุษย์กับสุนัข รวมทั้งให้ความรู้ในคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารสัตว์เลี้ยงชั้นแนวหน้าหลายฉบับอาทิ สื่อรักสัตว์เลี้ยง,แหล่งสัตว์เลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขในโครงการฝึกสุนัขไร้บ้านให้มีบ้านอยู่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

โรคติดต่อที่ควรระวังและการให้วัคซีนในสุนัข

วัคซีนสุนัข

โรคติดต่อและการให้วัคซีนในสุนัข

โรคติดต่อที่เกิดขึ้นกับสุนัข จำเป็นต้องหาวัคซีนป้องกัน

Home / การฝึกสุนัข

โรคติดต่อในสุนัข

สุนัขจำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรค

สุนัขจำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรค ซึ่งโรคเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ไม่มียารักษาโดยเฉพาะทำให้โอกาสรอดชีวิตน้อยมาก ดังนั้นการฉีดวัคซีน ป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หัดสุนัข (Canine Distemper Virus: CDV) พบได้ ในสุนัขทุกช่วงอายุ แต่สุนัขอายุน้อยจะอันตรายมากกว่า โรคนี้เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ไม่ติดต่อไปยังมนุษย์ ลักษณะจำเพาะของโรค คือ มีไข้ตาแฉะ มีน้ำมูก ควบคู่ไปกับอาการของระบบทางเดินอาหาร ระบบหายใจ และระบบประสาท

อาการ (Clinical sign) แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ

  • ระยะที่หนึ่ง จะพบ 3-5 วันหลังจากได้รับเชื้อ สุนัขจะมีน้ำตาและ น้ำมูกโดยเริ่มแรกจะใส ต่อมาข้นและมีสีเหลืองปนเขียว มีไข้สูงประมาณ 24-48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังพบอาการอื่นที่ไม่เฉพาะต่อโรคร่วมด้วย เช่น ไอ เมื่อ อาหาร ห้องเสีย อาเจียน
  • ระยะที่สอง จะเริ่มอาการหลังจากระยะแรก 1 อาทิตย์ บางครั้ง 2 เดือนก็พบได้ อาการระยะนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่เข้าไปทำลายระบบประสาท ซึ่งความรุนแรงขึ้นกับว่าเชื้อโรคเข้าไปทำลายส่วนไหนของระบบประสาท ที่พบ บ่อย คือ
  1. ชัก (convulsion, seizure, fits) และมีกล้ามเนื้อหดตัวเป็นจังหวะ พบมากที่กล้ามเนื้อขา ใบหน้า โดยที่ขาจะกระตุก (jerk) ทุก 2-3 วินาที โดยที่สุนัขไม่สามารถควบคุมได้ ถ้าเป็นมากสุนัขไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างปกติ กรณีชักที่ใบหน้าและขากรรไกร จะกินน้ำและอาหารลำบาก

 

  1. อาการอื่นๆ ที่พบได้ก็มีสูญเสียการรับรู้อย่างสมดุล , อัมพาต , ขาด ความสนใจสิ่งแวดล้อมบางครั้งอาจมีการหนาตัวและแข็งขึ้นของฝ่าเท้า (Pad) ดังนั้น Hard pad จึงเป็นอีกชื่อหนึ่งของโรคนี้ สุนัขที่เป็นไข้หัดสุนัขประมาณ 50 % สามารถหายได้โดยไม่มีอาการทางประสาท การไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว ทำให้โอกาสหายเพิ่มขึ้นและเมื่อหายแล้วสามารถเกิดโรคได้อีก

การแพร่เชื้อโรค (Transmission) สัตว์ที่กำลังป่วยหรือเพิ่งหายจากป่วย จะขับเชื้อไวรัสจำนวนมากทางอากาศรวมทั้งทางน้ำมูก น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระและน้ำตา

การป้องกัน (Prevention) การให้วัคซีนจะดีที่สุด วัคซีนจะไม่ให้ภูมิ ต้านทานทันที จะใช้เวลาประมาณ 10 วัน จึงเริ่มป้องกันโรคได้และแม่พันธุ์ควรฉีดวัคซีนกระตุ้นก่อนการผสมพันธุ์

อายุเริ่มแรกของลูกสุนัขที่ควรได้รับวัคซีนขึ้นกับสถานภาพภูมิคุ้มกัน โรคของแม่สุนัข ตังนี้

  1. แม่สุนัขมีภูมิคุ้มกันโรคสูง และลูกสุนัขได้รับนั้านมเหลืองแรกคลอดเต็มที่ ลูกสุนัขควรได้รับวัคซีนเข็มแรก ในช่วงอายุ 12-16 อาทิตย์ เพราะ เป็นช่วงที่ภูมิต้านทานที่ได้รับจากแม่เริ่มหมดไป
  2. ลูกสุนัขเกิดจากแม่ไม่ทราบสถานภาพภูมิคุ้มโรค และมีอายุเกิน 3 เดือนไปแล้วสามารถให้วัคซีนเพียงครั้งเดียวในช่วงระยะปีแรก
  3. ลูกสุนัขเกิดจากแม่ไม่ทราบสถานภาพภูมิคุ้มโรค และมีอายุต่ำกว่า 3 เดือนควรให้วัคซีนอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อลูกสุนัขหย่านม และครั้งที่ 2 เมื่อลูกอายุได้ 12-16 สัปดาห์ แต่ถ้าให้ดีที่สุด ควรให้วัคซีนห่างจากครั้งแรกทุก 2 อาทิตย์จนอายุได้ 12-16 อาทิตย์
  4. ลูกสุนัขกำพร้าไม่เคยได้รับ colostrum ควรให้วัคซีนตั้งแต่อายุ 2 อาทิตย์และต่อมาทุก 2 อาทิตย์จนอายุได้ 12-16 อาทิตย์
  5. เพื่อภูมิต้านทานอยู่ในระดับสูง ควรฉีดวัคซีนซํ้าทุกปี ปีละครั้ง

อย่างไรก็ตามการให้วัคซีนต้องคำนึงถึงภูมิต้านทานจากแม่ เพราะภูมิต้านทาน นี้จะไปขัดขวางการสร้างภูมิคุ้มโรคของลูก ดังนั้นการให้วัคซีนกับลูกสุนัขอายุน้อยหรือขณะที่ภูมิคุ้มโรคจากแม่ยังไม่หมด จำเป็นต้องได้รับวัคซีนซํ้าหลายครั้งเสมอ

การรักษา (Treatment) ปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้สำหรับทำลายเชื้อไวรัส โดยตรง ดังนั้นหลักการรักษาโรคประกอบด้วย

  1. ป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน โดยเฉพาะป้องกันการเกิดปอดบวม ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม
  2. การรักษาเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ(Symptomatic treatment) เช่น

ถ้ามีอาการชักก็ให้ยาระงับอาการชัก เป็นต้น

  1. การรักษาเพื่อพยุงสุขภาพสัตว์(Supportive treatment) เพื่อให้ ร่างกายคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว เช่น การให้สารน้ำหรือ(Isotonic fluid) โปรตีน และวิตามิน
  2. การดูแลเอาใจใส่สุนัข ให้ความรัก ความอบอุ่น สิ่งแวดล้อมที่ดี และ อาหารที่ดี ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้สุนัขฟื้นตัวเร็วขึ้น

มาก ดีกว่ามนุษย์ ถึง 1 ล้านเท่าทีเดียว

เกิดจากเชื้อไวรัส (Canine Adenovirus – 1)ทำให้ตับเสียหาย โรคนี้ไม่ ติดต่อไปยังมนุษย์

อาการ พบได้ในสุนัขทุกอายุ แต่พบบ่อยที่สุดในสุนัขอายุน้อยกว่า 1ปี

แบ่งเป็น

  • อาการแบบเฉียบพลันรุนแรง (Peracute) ไข้สูง ปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด และมักตายภายใน 24 ชั่วโมง หรือสุนัขบางตัวอาจ ตายทันทีโดยไม่แสดงอาการ
  • อาการแบบเฉียบพลัน (Acute) มีไข้สูง เบื่ออาหาร ทอนซิลอักเสบ เหงือกมีสีแดง ท้องเสีย แสดงอาการปวดช่องท้อง ท้องมักแข็งตึง อาจพบจุด เลือดตามใต้ผิวหนัง อาจพบกระจกตาขุ่นมัวเมื่อเริ่มฟื้นจากโรค กรณีเป็นมากๆ อาจป่วยและตายทันที

การแพร่เชื้อโรค สุนัขที่ป่วยจะขับไวรัสออกมาหลายทาง เช่น นํ้าลาย, ปัสสาวะ, อุจจาระ รวมทั้งสุนัขที่หายป่วยสามารถขับเชื้อไวรัสออกมาหลายเดือนหลังจากเป็นปกติ โรคนี้ติดต่อได้ง่ายโดยการกินและสัมผัสโดยตรงกับเชื้อที่ขับออกมากับสึ๋งขับถ่าย ดังนั้นจึงไม่ควรนำสุนัขที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเข้าไป รวมกลุ่ม

การป้องกัน โดยการให้วัคซีนและควรมีการกระตุ้นซํ้าทุกปีเป็นประจำ เนื่องจากวัคซีนป็องกันโรคนี้ในประเทศไทยมักอยู่รวมกันกับไข้หัดสุนัข การ ฉีดวัคซีนตับอักเสบ จึงมักแนะนำให้ ถือปฏิบัติเช่น เดียวกับวัคซีนป้องกันโรค ไข้หัดสุนัข

การรักษา เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ดังนั้นหลักการรักษาจึง คล้ายกับการรักษาโรคไข้หัดสุนัขคือ รักษาตามอาการและรักษาเพื่อพยุงสุขภาพสัตว์ รวมทั้งให้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมเพื่อควบคุมป้องกันการติดเชื้อโรคแทรกซ้อน และการดูแลที่ดี

 

เกิดจากเชื้อ Canine Corona Virus; CCV และ Canine Parvovirus; CPVพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1978 และแพร่ไปอย่างรวดเร็ว พบว่าภายใน 2 ปี

 

โรคนี้กระจายไปทั่วโลก ลักษณะจำเพาะของโรคคือ อาเจียนและท้องร่วงอย่างรุนแรง

อาการ พบได้2 รูปแบบคือ

  • แบบแรก สุนัขจะมีอาเจียน ท้องเสีย เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย โดย อุจจาระที่ออกมาจะมีเลือดปนและมีกลิ่นเหม็น ทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะลูกสุนัข
  • แบบที่สอง ลูกสุนัขจะตายอย่างรวดเร็ว (sudden death) โดยไวรัสจะ เข้าทำลายกล้ามเนื้อหัวใจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว รูปแบบนี้พบไม่มาก

การป้องกัน โดยการให้วัคซีนเร็วที่สุดที่สามารถให้ได้คือ 2 อาทิตย์ แต่ปกตินิยมให้เมื่อ 6-8 อาทิตย์ 12-14 อาทิตย์และ 16-18 อาทิตย์ ควรมีการ กระตุ้นซํ้าประจำทุกปีเพื่อให้ระดับภูมิคุ้มกันสูงอยู่เสมอ และให้วัคซีนกับสุนัข ทุกช่วงอายุ แม้กระทั่งในสุนัขแก่เพราะสุนัขแก่คล้ายกับลูกสุนัข คือ มีความไว ต่อการเกิดโรคสูง

การให้วัคซีนก่อนผสมทำให้แน่ใจได้ว่าสามารถให้ภูมิด้านทานแก่ลูก สุนัขได้เพียงพอและถ้าในสุนัขตั้งท้องควรให้วัคซีนเชื้อตาย โดยทั่วไปวัคซีนไม่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์แต่ไม่แนะนำให้ฉีดในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์

การรักษา   เนื่องจากโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ดังนั้น หลักการ

รักษาเช่นเดียวกับการรักษาโรคไข้หัดสุนัข ที่สำคัญ คือ ต้องหยุดสภาพการขาดน้ำที่เกิดจากการอาเจียนและท้องเสียโดยให้สารน้ำเป็นจำนวนมาก และใช้ยาปฏิชีวนะควบคุมการติดเชื้อแทรกซ้อน

เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อหลายชนิดที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม ที่สำคัญคือ Canine Parainfluenza Virus, Canine Adenovirus type 2และแบคทีเรีย Bordetella bron chiseptica ลักษณะสำคัญของโรค คือ ไอ ซึ่ง ความรุนแรงของโรคแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ Kennel cough เป็นโรคที่ทำความรำคาญแก่สุนัขมากกว่าเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งจะพบมากในสุนัขที่เลี้ยงรวมกัน

อาการ เริ่มด้วยไอแห้งๆ ต่อมาจะกลายเป็นไอแค็กๆ และบ่อยขึ้นถ้าเจ้าของลังเกตุไม่ดีคิดว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดคอและจะหยุดไอเมื่อสามารถขย้อนเอาเสมหะออกมาได้ การคลำที่หลอดลมจะกระตุ้นให้เกิดการไออย่าง รุนแรง บางครั้งมีอาเจียนร่วมด้วย สุนัขจะไอติดต่อกันเป็นเวลาหลายนาที kennel cough จะเป็นประมาณ 7-14 วัน ถ้าเป็นไปรุนแรงจะหายเองได้คล้ายกับ หวัดในคน

การแพร่เชื้อ โดยการหายใจ สุนัขจะขับไวรัสออกมาในอากาศ ดังนั้น สุนัขที่อยู่รวมกลุ่มเป็นจำนวนมากในพื้นที่จำกัด โอกาสที่จะรับเชื้อไวรัสเข้าไปเป็นจำนวนมากได้สูง ดังนั้นการระบายอากาศที่ดีมีประสิทธิภาพจะลดการติดต่อโรคได้ โรคนี้ไม่ติดต่อไปยังมนุษย์

การป้องกัน การให้วัคซีนจะช่วยลดการติดเชื้อและความรุนแรงของ โรคได้ วัคซีนป้องกันโรคที่ดีควรป้องกันทั้งโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย หรือให้ร่วมกันทั้ง 2 ชนิด เริ่มให้วัคซีนเมื่ออายุได้6 อาทิตย์ กระตุ้นซํ้าเมื่อ 12-14,16-18 อาทิตย์ ต่อไปปีละครั้ง ในประเทศไทยวัคซีนที่ใช้ทั่วไป มักอยู่รวมกับไข้หัด ตับอักเสบ และโรคไข้ฉี่หนู ( leptospirosis )

การรักษา ใช้หลักการเดียวกันกับการรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสอื่น ๆ โดยถ้ามีอาการน้อย ๆ ไม่ต้องรักษา ดูแลให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและอบอุ่นก็จะหายไปเองเหมือนโรคหวัดในคน ถ้าไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะ อาจต้องให้ยาระงับอาการไอ แต่ถ้ามีเสมหะ ควรให้ยาละลายเสมหะร่วมด้วย และให้ยาปฏิชีวนะกรณีมีการติดเชื้อแบคทีเรีย B. bronchiseptica.



เกิดจากเชื้อไวรัส Rabies Virus โรคพบได้ในสัตว์เลือดอุ่นทุกชนิด โดยเฉพาะสัตว์กินเนื้อเช่น สุนัขบ้าน โรคพิษสุนัขบ้ามีความร้ายแรงและ อันตรายมากที่สุดสามารถทำให้สุนัขตาย และติดต่อไปยังมนุษย์ ในคนถ้าเป็น โรคพิษสุนัขบ้าแล้ว โอกาสรอดชีวิตน้อยมาก

การแพร่เชื้อ โดยการกัดของสุนัขบ้า ในนํ้าลายสุนัขบ้าจะมีเชื้อไวรัสอยู่จำนวนมาก หลังจากถูกกัดเชื้อจะตรงไปยังระบบประสาท ปกติสุนัขจะขับ ไวรัสออกมาในนํ้าลายก่อนสุนัขแสดงอาการ 1 อาทิตย์ และโดยการหายใจเอาเชื้อไวรัสในอากาศ เช่น ในถํ้าที่มีนํ้าค้างคาว

อาการ เริ่มแรกจะมีไข้สูง พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ สุนัขเงียบจะกระวนกระวาย ตะครุบ หรือกระปรี้กระเปร่า ส่วนสุนัขก้าวร้าวจะกลายเป็นประจบประแจง ทำตัวน่าสงสารหรือทำตัวให้เจ้าของเอ็นดู ต่อมา อาการจะเปลี่ยนไปใน 2รูปแบบคือ

  1. รูปแบบดุร้าย (the furious form)

สุนัขจะตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นทุกชนิดมากกว่าปกติ และกัดทุกสิ่งที่ เคลื่อนที่อยู่ข้างหน้าและจะกัดมากขึ้นถ้าถูกกระตุ้นด้วยแสง เสียง ความสั่นสะเทือน สุนัขจะวิ่งอย่างไร้จุดหมาย ต่อมา จะมีการ ชัก ซึ่งทำ,ให้สุนัขอัมพาตและตายในที่สุด

  1. อัมพาต (The dump or paralytic form)

สุนัขจะไม่กัดแต่จะเกิดอัมพาตตามกล้ามเนื้อ ขากรรไกรค้าง ลิ้นห้อย เสียงเห่าอาจจะเปลี่ยนไป ปกติแล้วอาการจะแสดงภายใน 3-8 อาทิตย์หลังจาก ถูกกัด แต่บางครั้งอาจมากกว่า 8 เดือน ขึ้นกับตำแหน่งที่กัด ล้ากัดบริเวณ ศีรษะจะแสดงอาการเร็วที่สุด

การป้องกัน สุนัขควรได้รับวัคซีนป้องกัน การป้องกันโรคล่วงหน้า ครั้งแรกเมื่ออายุได้ 3 เดือนเป็นต้นไป เนื่องจากระบบการสร้างภูมิคุ้มกันต่อ โรคพิษสุนัขบ้าจะสามารถสร้างภูมิต้านทานโรคได้ค่อนข้างดีหลังจากอายุ 11 สัปดาห์เป็นต้นไป และภูมิต้านทานที่ได้รับจากแม่ทางนมนํ้าเหลือง (Colostrum) ก็มีอิทธิพลต่อการสร้างภูมิต้านทานโรคอีกด้วย หากสุนัขได้รับวัคซีนในขณะที่ภูมิต้านทานจากแม่มีระดับสูงอยู่จะไม่สามารถสร้างภูมิ ต้านทานได้ เลย

การป้องกันหลังสัมผัสโรค องค์การอนามัยโรคได้ให้คำแนะนำว่า

  • สุนัขที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อน ถ้าถูกสุนัขบ้า

กัด ควรทำลายสัตว์ที่ถูกกัดทันที

  • สุนัขที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อน ถ้าถูกสุนัขที่

สงสัยว่าเป็นบ้าหรือไม่ทราบสภาวะของสัตว์ตัวที่มากัด ให้กักขัง สุนัขที่ถูกกัดไว้ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์เป็นเวลา 6 เดือน ถ้า สัตว์ถูกกัดเคยฉีดวัคซีนป็องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อนควรฉีดซํ้า แล้วกักขังไว้ดูอาการอย่างน้อย 3 เดือน นอกจากนี้มีข้อแนะนำว่า

  • กรณีที่สุนัขไม่ฉีดวัคซีนป็องกันโรคพิษสุนัขบ้า และถูกสุนัขบ้ากัด

ให้วัคซีนกับสุนัขที่ถูกกัด 3-4 ครั้ง ห่างกันครั้งที่ 4-5 วัน พบว่า ให้ผลในการกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มโรคเช่นเดียวกับ การฉีดทุกวันติดติดกัน 10-12 วัน

  • กรณีสุนัขถูกกัดเคยฉีดวัคซีนมาก่อน และสุนัขยังมีภูมิต้านทานอยู่ ให้ฉีดวัคซีนซํ้าภายใน 5 วัน หลังสัมผัสโรค
  • ในกรณีแม่สุนัขกำลังเลี้ยงลูก ถ้าเป็นบ้าขณะที่กำลังให้นมลูกแนะนำ

ให้ทำลายลูกทั้งหมด เพราะลูกมีโอกาสได้รับเชื้อจากนํ้าลายแม่ และลูกสัตว์มีความไวในการติดโรคมากกว่าสุนัขอายุมากขึ้น

เป็นโรคติดต่อที่เกิดกับสัตว์หลายชนิด รวมทั้งสุนัขและคนด้วย สาเหตุเกิดจากเชื้อ leptospira ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่ตับและไต

อาการ มีหลายรูปแบบ ขึ้นกับชนิดและความรุนแรงของการติดเชื้อ กล้ามเนื้อและไต เป็นอวัยวะที่เชื้อเข้าไปทำลายมากที่สุด ดังนั้นจึงทำให้สุนัขมีความเจ็บปวดกล้ามเนื้อ ไม่ค่อยเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวด้วยความเจ็บปวด ส่วนอาการอื่นๆ จะพบ มีไข้ ซึม เบื่ออาหาร และมีภาวะดีซ่าน (เหลืองตามเยื่อเมือกต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ตาและเหงือก) ถ้าไตเสีย สุนัขจะห้องเสีย อาเจียน มีแผลหลุมในปาก ซึ่งต่อมาสุนัขจะขาดนํ้าและตายในที่สุด

การแพร่เชื้อโรค ปัสสาวะของสัตว์ป่วยและสัตว์เพิ่งหายป่วย เป็นแหล่งที่มีเชื้อโรคจำนวนมาก ดังนั้นการสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง หรือ สัมผัสกับสิ่งอื่นๆ ที่แปดเปี้อนปัสสาวะมีเชื้อโรคจะทำให้เกิดโรคได้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าสามารถติดต่อโดยการกินเนื้อที่ติดเชื้อ โรคนี้สามารถติดต่อจากสัตว์ ถึงคนได้ ปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคนี้ถูกนำไปรวมกับวัคซีนป้องกันไข้หัดสุนัข และโรคตับอักเสบติดต่อ ดังนั้นโปรแกรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีสจึงควบคู่กับสองโรคนี้เสมอ

การรักษา ประกอบด้วย

  1. ให้ยาปฏิชีวนะ พบว่า เพนนิซัลลิน และไดไฮโดรสเตรปโตมัยชิน ให้ผลดีในการรักษา
  2. รักษาเพื่อพยุงสุภาพสัตว์ เช่น การให้สารนํ้าและสารอาหาร

• ประโยชน์ใช้สอยที่ไม่ธรรมดา เช่น สุนัข Lhasa Apso เป็นสุนัขที่ลามะในธิเบตเลี้ยงไว้เพื่อระวังภัย และยังถือว่าเป็นสัญญลักษณ์แห่งโชคลาภอีกด้วย สำหรับสุนัขพันธุ์ เชาเชา ซึ่งถือกำเนิดในมองโกเลียเมื่อ 3,000 ปีก่อน แรกเริ่มเดิมที ก็เป็นสุนัขที่ถูกใช้ในสงครามอยู่ดีๆ แต่ต่อมากลับถูกชาวจีนฆ่าเป็นอาหาร และนำเอาขนสัตว์ไปทำเครื่องนุ่งห่มเสียนี่ ช่างน่าอาภัพนัก ว่ากันว่า ในปัจจุบันนี้ชาวเกาหลี ส่วนหนึ่งยังนิยมกินเนื้อสุนัขเชาเชา และ พูเดิ้ลสีแดง อยู่ โดยถือว่าเป็นอาหารอันโอชะชั้นเหลาทีเดียว

สุนัขแรกเกิดที่ได้รับการถ่ายทอดภูมิคุ้มกันในรูปของแอนติบอดีจาก แม่ในการป้องกันการติดเชื้อตามธรรมชาติ ประมาณ 2 – 18 % ของแอนติบอดีดังกล่าว ลูกสุนัขได้รับผ่านทางรก และประมาณ 82 – 98 % ได้รับผ่านทางนมน้ำเหลือง

ความสามารถของลูกสุนัขในการป้องกันโรคต่างๆ ขึ้นอยู่กับระดับ แอนติบอดีที่ได้รับมาจากแม่ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผ่านทางนมน้ำเหลืองและค่าครึ่งชีวิตของแอนติบอดีต่อโรคต่างๆ ซึ่งจะลดลงจนถึงระดับที่ไม่สามารถป้องกันโรคตามธรรมชาติได้ การให้วัคซีนในขณะที่ร่างกายมีระดับแอนติบอดีสูง จะทำให้การทำวัคซีนไม่ได้ผล เพราะเชื้อที่ให้เข้าไปจะลูกรบกวนจากแอนติบอดีที่ยังสูงอยู่ ตามหลักการ ควรทำวัคซีนเมื่อภูมิคุ้มกันลดลงถึงระดับที่รบกวนการทำวัคซีนน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามระดับภูมิคุ้มกันที่รบกวนการตอบสนองต่อวัคซีน อาจใกล้เคียงกับระดับภูมิคุ้มกันที่ไม่สามารถปองกันการติดเชื้อโดยธรรมชาติ จึงทำให้ลูกสุนัขมีช่วงเวลาที่ไม่สามารถต้านทานโรคได้ แต่ก็ไม่สามารถตอบสนองต่อวัคซีนได้เช่นเดียวกัน

ลูกสุนัขสามารถตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อเชื้อที่ร่างกายได้รับเข้าไป ตั้งแต่แรกเกิด แต่อาจช้าและไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับสุนัขที่โตเต็มที่แล้ว สุนัขที่อายุน้อยกว่า 2 สัปดาห์ มีระบบภูมิคุ้มกันที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ การได้รับวัคซีนที่เป็นวัคซีนเชื้อเป็นอาจสร้างปัญหาแก่สุนัขได้ดังนั้นไม่ควรทำวัคซีนในลูกสุนัขที่มีอายุน้อยกว่า 2 สัปดาห์

อายุที่ควรทำวัคซีนครั้งแรกจากข้อมูลที่รายงาน รวมทั้งโปรแกรม วัคซีนของต่างประเทศแนะนำให้ทำวัคซีนแก่ลูกสุนัขครั้งแรกเมื่ออายุสุนัขได้ 8 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ระบบภูมิคุ้มกันของลูกสุนัขมีการพัฒนาเต็มที่ ประกอบกับระดับแอนติบอดีที่ลูกสุนัขได้รับมาจากแม่ผ่านทางนมน้ำเหลือง น่าจะมีระดับลดลงจนทำให้สุนัขสามารถตอบสนองต่อวัคซีนได้

ดังนั้นการทำวัคซีนแบบมาตรฐานควรจะเริ่มเมื่อลูกสุนัขอายุ 8 สัปดาห์ และควรเป็นการทำวัคซีนรวม ซึ่งประกอบด้วยวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข และวัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบติดต่อจากเชื้อพาร์โวไวรัส เพื่อให้แน่ใจว่า ลูกสุนัขจะได้รับการคุ้มครองให้ปลอดภัยจากโรคร้ายแรงทั้ง 2 โรค

อย่างไรก็ตาม ลูกสุนัขที่อยู่หรือมาจากสถานที่ที่สภาพแวดล้อมมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรค เช่น อยู่ในบ้านหรือบริเวณที่มีการระบาดของโรค คอก สุนัขที่เคยมีการระบาดของโรค สถานสงเคราะห์สัตว์ ร้านขายสัตว์เลี้ยง ลูกสุนัข ที่มาจากแม่ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่มีประวัติการทำวัคซีน สัตวแพทย์อาจพิจารณาทำวัคซีนก่อนอายุ 8 สัปดาห์ คือ ทำวัคซีนเมื่อลูกสุนัขอายุ 6 สัปดาห์โดยอาจจะทำวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัขหรือโรคลำไส้อักเสบติดต่อจากเชื้อพาร์โวไวรัส ทั้งนี้ขึ้นกับดุลพินิจของสัตวแพทย์ว่า ลูกสุนัขมีความเสี่ยง ต่อโรคใดมากกว่ากัน

สำหรับโรคพิษสุนัขบ้า จากข้อมูลที่ทางบริษัทผู้ผลิต และจาก คำแนะนำใน Compendium of Animal Rabies Control 1998 แนะนำใหฉีดเมื่อลูกสุนัขอายุได้ 3 เดือน อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการมีความเห็นว่าการฉีดวัคซีนในลูกสุนัขอายุน้อยกว่า 3 เดือน ที่มีความเสี่ยงต่อโรคพิษสุนัขบ้าให้อยู่ในดุลพินิจของสัตวแพทย์ในกรณีที่ลูกสุนัขได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เมื่ออายุน้อยกว่า 3 เดือน ให้ทำการฉีดวัคซีนซ้ำเมื่อลูกสุนัขอายุได้ 3 เดือนอีกครั้งหนึ่ง

ในอายุปีแรกของลูกสุนัขแนะนำให้ทำวัคซีนมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากภูมิคุ้มกันจากแม่สุนัขที่อาจจะมีอยู่สูงขณะทำวัคซีนครั้งแรก หรือ เพื่อกระตุ้นให้ลูกสุนัขสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงภายหลังจากการได้รับวัคซีนครั้งแรก สำหรับโรคลำไส้อักเสบติดต่อจากเชื้อพาร์โวไวรัส อาจมีช่วงระยะเวลาที่ลูกสุนัขตอบสนองต่อการทำวัคซีนน้อย หรือไม่ตอบสนองเลยยาวนานกว่าใน กรณีของโรคไข้หัดสุนัข ประกอบกับช่วงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมีสูง จึงอาจจะต้องทำวัคซีนมากกว่า 2 ครั้งในปีแรก ซึ่งระยะห่างการทำวัคซีนแต่ละครั้ง ควรห่างกันไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป

ชนิดของวัคซีนที่มีให้เลือกใช้ในประเทศไทยเริ่มมีมากขึ้น กรณีโรคไข้ หัดสุนัขมักเป็นวัคซีนรวมอยู่กับวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบติดต่อและโรคเลป โตสไปโรซีส ส่วนวัคซีนโรคลำไส้อักเสบติดต่อจากเชื้อพาร์โวไวรัสเป็นวัคซีน เชื้อเป็นที่อาจจะอยู่ในรูปวัคซีนเดี่ยวหรืออยู่รวมกับวัคซีนที่กล่าวมาข้างต้น

สำหรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นวัคซีนเชื้อตายซึ่งมีทั้งที่เป็นวัคซีนเข็ม เดียวและรวมอยู่กับวัคซีนอื่นๆในเข็มเดียวกัน

โปรแกรมวัคซีนสำหรับสุนัขในประเทศไทย

อายุสุนัข

ชนิดวิ’คซีน

หมายเหตุ

6 สัปดาห์

วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข หรือลำไส้อักเสบ

เฉพาะกรณีที่สัตว์แพทย์พิจารณา แล้วว่าลูกสุนัขมีความเสี่ยงต่อโรค ดังกล่าว

8 สัปดาห์

วัคซีนรวม (ไข้หัด + ลำไส้อักเสบ)

 

10สัปดาห์

วัคซีนรวม (ไข้หัด + ลำไส้อักเสบ)

 

12สัปดาห์

วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

สำหรับสุนัขที่มีความเสี่ยงสูง อาจทำก่อน 12 สัปดาห์ และทำซํ้าอีกเมื่ออายุ 12 สัปดาห์

16สัปดาห์

วัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบ

 

6 เดือน

วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากนั้นฉีดกระตุ้นทุกโรคทุกปี

 

 

 

 

ฝึกสุนัข

บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

ด้วย 2 ใบประกาศหลักสูตรครูฝึกสุนัขตำรวจและวิทยากรระดับนานาชาติเกี่ยวกับหัวข้อพฤติกรรมของมนุษย์กับสุนัข รวมทั้งให้ความรู้ในคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารสัตว์เลี้ยงชั้นแนวหน้าหลายฉบับอาทิ สื่อรักสัตว์เลี้ยง,แหล่งสัตว์เลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขในโครงการฝึกสุนัขไร้บ้านให้มีบ้านอยู่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

โรคพิษสุนัขบ้า ภัยร้ายที่ควรระวัง

พิษสุนัขบ้า

โรคพิษสุนัขบ้า ภัยร้ายที่ควรระวัง

โรคพิษสุนัขบ้า ก่อความเสียหายต่อชีวิตคนและสัตว์เลี้ยง

Home / การฝึกสุนัข

พิษสุนัขบ้า

แม้ว่าโรคพิษสุนัขบ้าจะเป็นโรคที่รู้จักกันมานานแล้ว

แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง อาทิ ขาดความเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของตนเองหรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำให้โรคนี้ยังคงอยู่ และก่อความเสียหายต่อชีวิตคนและสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าจะมีความรุนแรงขึ้น

กรมปศุสัตว์ได้มีการประกาศพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคซึ่งกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย นอกจากนี้ยัง มีรายงานว่ามีผู้ถูกสุนัขบ้ากัดแล้วเสียชีวิตไปแล้วหลายราย ตามที่ได้มีข่าวนำเสนอผ่านทางสื่อสารมวลชนและ social media ต่างๆ ทำให้ผู้คนเริ่มตระหนักถึงความรุนแรงของโรคและหันมาสนใจระมัดระวังตนเองและ สัตว์เลี้ยงมากยิ่งขึ้น สุนัขและแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความใกล้ชิดกับคน มีทั้งที่เลี้ยงอยู่ในบ้านหรือเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ และมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นสุนัขและแมวจรจัด ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจนก่อให้เกิดปัญหาสาธารณะและเป็นแหล่งพาหะ โรคต่างๆ กรณีโรคพิษสุนัขบ้านั้นไม่ว่าคนหรือสัตว์ เมื่อแสดงอาการป่วยแล้วจะเสียชีวิตทุกราย จึงเป็นโรคที่ ควรเฝ้าระวังและหาทางป้องกัน การควบคุมประชากรสุนัขและแมวถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงใน การแพร่กระจายของโรค

จริงหรือไม่ที่สุนัขและแมวเป็นโรคพิษสุนัขบ้าเฉพาะหน้าร้อน

ความเชื่อดังกล่าวไม่เป็นความจริงเนื่องจากผลการชันสูตรโรคพิษสุนัขบ้าโดยห้องปฏิบัติการของกรม ปศุสัตว์ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศนั้น มีการตรวจพบเชื้ออยู่ตลอดทั้งปี

โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากอะไร

โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัส (Rabies virus) เมื่อเชื้อออกจากร่างกายสิ่งมีชีวิตจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ นาน ถูกทำลายได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน แสงแดด หรือสภาวะแห้งแล้ง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดเป็นโรคนี้ ได้ มีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดว่าโรคพิษสุนัขบ้าติดคนโดยการถูกสุนัขหรือแมวที่มีเชื้อกัดเท่านั้น จริงๆ แล้ว เชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าสามารถแพร่กระจายสู่คนจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ ที่เป็นโรคและมีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับคนได้ด้วย เช่น วัว ควาย แพะ แกะ สุกร ม้า ลิง ชะนี กระรอก และสัตว์ป่า เป็นต้น

โรคพิษสุนัขบ้าติดต่อจากสัตว์สู่คนได้อย่างไร

สัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าจะขับเชื้อออกมากับน้ำลายก่อนสัตว์แสดงอาการป่วย 3-5 วัน จนกระทั่ง เสียชีวิต เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผลที่ถูกข่วน เลีย กัด รอยถลอกที่ผิวหนัง เยื่อบุตา จมูกและปาก ระยะฟักตัวของเชื้อในสุนัขและแมวประมาณ 3-8 สัปดาห์ ในคนประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 4 เดือน บางรายอาจ เร็วหรือช้ากว่านี้ อาจใช้เวลาเป็นปีจึงแสดงอาการ ซึ่งขึ้ นกับหลายปัจจัย อาทิ ปริมาณเชื้อหรือตำแหน่งที่ ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย และพบว่าเชื้อจากสัตว์ป่ามีความรุนแรงมากกว่าสัตว์เลี้ยง

อาการของสุนัขและแมวที่เป็นโรคพิษสุนัขเป็นอย่างไร

อาการในสุนัขมี 2 แบบ ได้แก่ แบบดุร้ายและแบบซึม แบบดุร้าย สุนัขจะแสดงอาการทางประสาท กระวนกระวาย กัดทุกสิ่งที่ขวางหน้า ตัวแข็ง บางตัว ล้มลงชักกระตุก ถ้ากักขังไว้จะกัดกรงจนเลือดไหลโดยไม่รู้สึกเจ็บปวด อาการดังกล่าวนี้เรียกว่าระยะตื่นเต้นซึ่ง จะแสดงอาการอยู่หลายวันจนเข้าสู่ระยะอัมพาต สุนัขจะมีน้ำลายไหล ไม่สามารถใช้ลิ้น ได้ สุนัขอาจมีอาการขย้อนคล้ายมีอะไรติดคอ ล้มลง เป็นอัมพาตทั่วตัวและตายในที่สุด แบบซึม สุนัขบ้าอาจแสดงอาการในระยะตื่นเต้นสั้นมากจนไม่ทันสังเกตเห็นอาการ แล้วแสดงอาการ ในระยะอัมพาต สุนัขบ้าที่แสดงอาการทั้ง 2 แบบ มักตายในเวลาไม่เกิน 10 วัน อาการที่พบในแมว แมวมักซุกตัวในมุมมืด มีอาการตื่นเต้น ดุร้าย กล้ามเนื้อสั่น น้ำลายไหล มี อาการทางประสาท จะกัดหรือข่วนอย่างรุนแรงไม่ปล่อย ขาเป็นอัมพาตและตายในที่สุด

ทำอย่างไรเมื่อถูกสุนัขบ้าหรือสงสัยว่าบ้ากัด

รีบล้างแผลให้เร็วที่สุดด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง เช็ดแผลด้วย Providone iodine หรือ แอลกอฮอล์ 70% หรือยาฆ่าเชื้อภายนอกชนิดอื่นๆ รีบไปพบแพทย์เพื่อการป้องกันและการรักษาที่ถูกต้อง

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • จดจำลักษณะสัตว์ สังเกตอาการและสาเหตุที่ถูกกัด
  • ติดตามหาเจ้าของสัตว์ที่กัด ซักถามประวัติการฉีดวัคซีนของสัตว์
  • ควรกักขังสัตว์และเฝ้าดูอาการอย่างน้อย 10 วัน
  • หากไม่สามารถกักสัตว์เพื่อเฝ้าดูอาการได้ หรือสัตว์นั้นหายไปจากพื้นที่ที่เคยอยู่ ให้สันนิษฐานว่า สัตว์ตัวนั้นน่าจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าไว้ก่อน
  • ถ้าสัตว์ตายควรนำส่งห้องปฏิบัติการชันสูตรโรคพิษสุนัขบ้า ได้แก่
    • 1) สถานเสาวภา สภากาชาดไทย (คลินิกชันสูตรและวิจัยโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์)
    • 2) สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
    • 3) ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ของกรมปศุสัตว์ที่มีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย (http://www.thairabies.net/trn/Sending.aspx)

ตัดเฉพาะส่วนหัวแช่น้ าแข็ง ใส่ถุงพลาสติกหลายๆ ชั้น แล้วส่งตรวจภายใน 24 ชั่งโมง การตัดหัวสัตว์ ต้องทำด้วยความระมัดระวังเพราะเป็นวิธีที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือติดต่อที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ปศุสัตว์ จังหวัดที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อขอคำแนะนำ

เราจะหลีกเลี่ยงและป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างไร

  1. นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเมื่ออายุ12 สัปดาห์แล้วฉีดกระตุ้นที่ 2-4 สัปดาห์ หลังจากฉีดวัคซีนเข็มแรก ถ้าเป็นลูกสุนัขหรือแมวที่เกิดจากแม่ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้ามาก่อนให้ พาไปฉีดตั้งแต่อายุ 2 เดือน และฉีดซ้ าที่อายุ 3 เดือน แล้วฉีดกระตุ้นตามก าหนด
  2. หากสัตว์เลี้ยงของเราโดนสัตว์ที่สงสัยว่าจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัดให้นำสัตว์ไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับ การฉีดวัคซีนกระตุ้นตามโปรแกรมเฝ้าระวังโรค และกักสัตว์เพื่อสังเกตอาการ
  3. ไม่ปล่อยสัตว์ออกมานอกบ้านโดยไม่ดูแลเพราะอาจได้รับเชื้อพิษสุนัขบ้าจากสุนัขจรจัดที่เป็นโรค
  4. คุมกำเนิดสุนัขและแมวหากไม่ต้องการเพิ่มจำนวน และไม่ควรนำมาปล่อยเป็นสุนัขและแมวจรจัด 5. ไม่แหย่หรือรบกวนสัตว์ ไม่แยกสัตว์ที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า อย่าปล่อยให้เด็กเล็กเล่นกับสัตว์โดย ลำพัง และไม่ควรคลุกคลีกับสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ
  5. ไม่เก็บลูกสุนัขหรือแมวมาเลี้ยงเพราะอาจมีเชื้อพิษสุนัขบ้าติดมา
  6. เมื่อพบสัตว์ที่สงสัยว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ สถานีอนามัย หรือสถาน บริการสาธารณสุขทันที
  7. หมั่นสังเกตสัตว์แปลกปลอมที่เข้ามาในชุมชนเพื่อเป็นการเฝ้าระวังโรค

ท่านสามารถนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ใด

– โรงพยาบาลสัตว์เพื่อการสอนของสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่มีคณะสัตวแพทย์ ซึ่งรวมถึง โรงพยาบาลสัตว์เพื่อการสอน คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร

– โรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกเอกชนใกล้บ้าน

– กรณีหน่วยงานราชการ หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่มีคณะสัตวแพทย์ จัดโครงการออกหน่วย รณรงค์ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ของท่าน สามารถน าสัตว์เลี้ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนฟรีและ ขอค าปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าและการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงได้ด้วย โครงการชุมชนร่วมใจห่างไกลโรคพิษสุนัขบ้า คณะสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร คณาจารย์ นักศึกษา เจ้าหน้าที่ และจิตอาสา ลงพื้นที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทำหมัน ถ่ายพยาธิในสัตว์เลี้ยง และรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า “เจ้าของสัตว์เลี้ยงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยลดโอกาสการแพร่กระจายโรค โดยการเลี้ยงสัตว์ด้วยความรับผิดชอบ ดูแลเอาใจใส่ ทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ เสมือนเขาเป็นสมาชิกของครอบครัว”

ฝึกสุนัข

บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

ด้วย 2 ใบประกาศหลักสูตรครูฝึกสุนัขตำรวจและวิทยากรระดับนานาชาติเกี่ยวกับหัวข้อพฤติกรรมของมนุษย์กับสุนัข รวมทั้งให้ความรู้ในคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารสัตว์เลี้ยงชั้นแนวหน้าหลายฉบับอาทิ สื่อรักสัตว์เลี้ยง,แหล่งสัตว์เลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขในโครงการฝึกสุนัขไร้บ้านให้มีบ้านอยู่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ


ลงทะเบียน
สอบถามการฝึกสุนัข

การพิจารณาเลือก เลี้ยงสุนัข

การพิจารณาเลือก เลี้ยงสุนัข

การพิจารณาเลือกเลี้ยงสุนัข

การตัดสินใจจะเลี้ยงสุนัขสักตัวในบ้านหลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆที่จะเลี้ยง

Home / การฝึกสุนัข

การพิจารณาเลือก เลี้ยงสุนัข

การพิจารณาและการตัดสินใจเลือกเลี้ยงสุนัข

การตัดสินใจจะเลี้ยงสุนัขสักตัวในบ้านหลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่อง ง่ายๆที่จะเลี้ยง ซึ่งที่จริงแล้วค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่มาก หากเราจะต้องพิจารณา กันอย่างรอบคอบ และพิจารณาถึงรายละเอียดกันอย่างจริงจัง ทั้งนี้เพราะสุนัข จะมีอายุได้ถึง 15 ปี ลูกสุนัขอาจถูกนำไปเลี้ยงตามกระแสความนิยมในขณะนั้นๆ เช่น การมีกระแสภาพยนต์เรื่อง 101 และ 102 คัลเมเชียล หรือการ นำเอาสุนัขมาแสดงประกอบในโฆษณาสินค้า บางครั้งลูกสุนัขก็อาจถูกนำไป เป็นของขวัญเนื่องในโอกาส วันเกิด วันเทศกาลสำคัญๆอย่างเช่นวันขึ้นปีใหม่ ดังนั้นสุนัขเป็นของขวัญที่สามารถสร้างความสุขและสร้างความสนุกอันยิ่งใหญ่ ในกรณีที่สุนัขตัวนั้นเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ หากตรงกันข้ามมันอาจเป็นของขวัญ ที่สามารถสร้างความทุกข์อย่างแสนสาหัสก็เป็นได้

ก่อนอื่นสิ่งแรกที่ต้องตอบให้ได้ว่าเราจะเลี้ยงสุนัขเพื่อต้องการอะไร เช่น เพื่อเป็นเพื่อนแก้เหงาหรือ เลี้ยงแทนลูกในรายที่ครอบครัวนั้นไม่สามารถมีลูกได้ บางคนเลี้ยงเพื่อเฝ้าบ้าน หวังเพียงให้เห่าเตือนหากมีผู้บุกรุกเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ หรือบางคนอาจหวังให้จู่โจมเลยโดยไม่จำเป็นต้องให้เห่าเตือนภัยก็ได้ บางคนก็เลี้ยงสุนัขเพื่อเพาะลูกออกมาขายทำกำไรเป็นรายได้ของครอบครัวก็มี หากคิดได้เแล้วก็ต้องมาพิจารณาเลือกสุนัขตัวที่จะนำมาเลี้ยงว่า สุนัขพันธุ์ไหนตัวไหนจึงจะเหมาะสมกับความต้องการของเรา

เมื่อเราคิดจะเลี้ยงสุนัขควรมีหลักในการพิจารณาเพื่อตัดสินใจก่อน ทั้งนี้เพื่อให้เราได้สุนัขที่ตรงตามความต้องการและสามารถอยู่ร่วมกับเราด้วยดี โดยมีประเด็นในการพิจารณาดังต่อไปนี้

กรณีของสุนัขพันธุ์แท้ลักษณะนิสัยค่อนข้าง แน่นอนต่างจากสุนัขพันธุผสมซึ่งจะบอกนิสัยได้ยากจึงจำเป็นต้องสังเกตุจากแม่สุนัขและพิจารณาจากการแสดงออกของลูกสุนัขตัวนั้นประกอบ อย่างเช่นบางคนชอบนิสัยสุภาพเรียบร้อย ก็ควรเลือกสุนัขพันธุ์ที่มีนิสัยเชื่อง ชอบอยู่ใกล้ชิดเจ้าของและไม่ ชอบเห่าส่งเสียงดังเช่นพันธุ์ชิสุ ปักกิ่ง ยอร์กไชร์ เทอร์เรียร์ โพ เมอราเนียนเป็นต้น

สุนัขมีหลายสายพันธุ์ให้เลือกตั้งแต่ พันธุ์เล็กน้ำหนักตัวตั้งแต่ 2 กิโลกรัม จนถึงพันธุ์ใหญ่ๆ น้ำหนัก ตัวประมาณ 50-60 กิโลกรัม โดยทั่วไปผู้ชายมักชอบสุนัขพันธุ์ ใหญ่ แต่ผู้หญิงชอบพันธุเล็กๆ

ลักษณะของขนมีชนิดขนสั้น ขนยาว และขนลวด ขนชั้นเดียวหรือสองชั้น สีของขนมีหลากหลายตามสายพันธุ์ของ สุนัขแต่ละตัว หากเป็นสุนัขพันธุ์แท้การเลือกสีขนก็จำเป็นที่ต้อง ให้ถูกต้องตามรูปแบบของสายพันธุ์นั้นๆ การเลี้ยงดูและการดูแล ขนในสุนัขพันธุ์ขนสั้นจะง่ายกว่าและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าในสุนัข พันธุ์ขนยาว

ลักษณะรูปร่างโครงสร้างของสุนัขเพศผู้จะใหญ่และมีความสวยงามมากกว่าสุนัขเพศเมีย แต่สุนัขเพศผู้เมื่อ ถึงวัยเจริญพันธุ์มักจะออกนอกบ้านเพื่อไปผสมพันธุ์และบางครั้ง จะได้รับบาดแผลจากการต่อสู้เพื่อแย่งสุนัขเพศเมียกัน ส่วนสุนัขเพศเมียสามารถขยายให้ลูกสุนัขกับเจ้าของได้

ลูกสุนัขจะอ่อนแอมากกว่าสุนัขโตจึงจำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่ในเรื่องอาหารและความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด แต่ข้อดีของการเลี้ยงตั้งแต่เป็นลูกสุนัขจะทำให้ความสัมพันธุ์ของสุนัขกับเจ้าของมีโอกาสทำให้เกิดความสัมพันธุ์ที่ดีมากกว่าการนำเอาสุนัขโตมาเลี้ยง บางครั้งในรายที่เลี้ยงสุนัข เพื่อขยายพันธุ์ เพื่อการค้าอาจตัดสินใจเลือกเลี้ยงสุนัขโต ทั้งนี้ เพราะเป็นการลดความเสี่ยงตายของลูกสุนัข ลดค่าใช้จ่ายและเวลา ในการเลี้ยงทำให้ไค้ผลผลิตเร็ว

ควรมีพื้นที่ที่เหมาะสมกับขนาดของตัวสุนัขเพื่อใช้เดินและวิ่งออกกำลังกายของสุนัข ดังนั้นสุนัขพันธุ์ใหญ่จึงต้องการพื้นที่มากกว่าสุนัขพันธุ์เล็ก

ในเรื่องของเวลาว่างเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างสุนัขและเจ้าของเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะทำ ให้เจ้าของคุ้นเคยและรู้นิสัยของสุนัขได้ดี ขณะเดียวกันสุนัขจะยอมรับและให้ความไว้วางใจกับเจ้าของเป็นอย่างดีด้วย

สำหรับการเลี้ยงสุนัขเริ่มตั้งแต่ค่าอาหาร อุปกรณ์ ของใช้ต่างๆ สำหรับในการดูแล ค่าวัคซีน รวมถึงค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยด้วย สรุปโดยรวมได้ว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสุนัขพันธุ์เล็ก และสุนัขพันธุ์ขนยาวจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสุนัขพันธุ์ขนสั้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจ จะเอาสุนัขเข้ามาเลี้ยงในบ้าน เราควรพิจารณาตามหัวข้อดังกล่าวและศึกษาเรียนรู้สุนัขพันธุ์ที่เราหมายตาอย่างรอบคอบก่อน จะได้มีความสุขและสนุกกับ การเลี้ยงสุนัขอย่างแน่นอน



          โดยทั่วไปที่สะดวกรวดเร็วสำหรับบุคคลทั่วไปมักจะเป็นร้านจำหน่ายสุนัขซึ่งเป็นที่ๆ จะรวบรวมลูกสุนัขในพื้นที่นั้นๆ มาวางจำหน่าย เปรียบเสมือนเป็นตลาดนัดพบของผู้เพาะเลี้ยงสุนัขรายย่อยกับผู้ซื้อการเลือกสุนัขจาก ร้านค้าอาจต้องเลือกร้านค้าที่มีประวัติค่อนข้างดีในการจัดการดูแลและการควบ คุมโรคติดต่อร้ายแรง ทั้งนี้เพราะเป็นสถานที่ๆ มีการนำลูกสุนัขจากที่ต่าง ๆ มา รวมกันอยู่ในที่ ๆ เดียวกัน หากมีลูกสุนัขเพียงตัวสองตัวเป็นโรคติดต่ออยู่อาจ แพร่เชื้อสุ่ลูกสุนัขตัวอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้นถ้าไม่มีการจัดการและการควบคุมโรคที่ดีพอ ส่วนการเลือกลูกสุนัขจากคอกสุนัขหรือฟาร์มเพาะเลี้ยงสุนัขโดยตรง ปัญหาดังกล่าวข้างต้นพอจะเชื่อไค้ว่าความเสี่ยงจะน้อยลงนอกจากนั้นยัง สามารถสังเกตไค้จากแม่สุนัขด้วยและลูกสุนัขส่วนใหญ่จะอารมณ์ดี  และมีสภาวะเครียดน้อยกว่าที่ถูกนำไปจำหน่ายในร้านค้า ความเครียดดังกล่าวที่มัก เกิดกับลูกสุนัขมีสาเหตุจากการพรากจากแม่สุนัข และพี่น้องในคอกเดียวกัน หรือจากสาเหตุการเปลี่ยนแปลงเรื่องสถานที่ อาหารและการเลี้ยงดู สาเหตุหนึ่งหรือหลายสาเหตุที่ร่วมกันทำให้เกิดความเครียดกับลูกสุนัขจะส่งผลให้ลูกสุนัข อ่อนแอ ไม่แข็งแรง และติดเชื้อโรค ทำให้ป่วยได้ง่ายขึ้น

          ขณะไปเลือกสุนัขควรสังเกตสถานที่ ๆ ลูกสุนัขอาศัยอยู่ในเรื่องความ สะอาด และร่องรอยของอุจจาระ ปัสสาวะ เป็นอย่างไร ซึ่งหากเป็นร้านค้ามักจะ ได้รับการดูแลในเรื่องเหล่านี้ค่อนข้างดี และเกือบตลอดเวลา ทำให้เรามีโอกาส สังเกตได้มากขึ้น แต่ค้าเป็นคอกสุนัขหรือฟาร์มเพาะเลี้ยงมักจะดูแลเรื่องเหล่านี้ เป็นเวลา เช่น ทำความสะอาดช่วงเช้าและช่วงเย็น และหากไปโดยไม่มีการนัด หมายล่วงหน้าจะทำให้มีโอกาสได้สังเกตสภาพที่เลี้ยงลูกสุนัขมากยิ่งขึ้นด้วย

การนำลูกสุนัขมาเลี้ยงควรมีอายุตั้งแต่เดือนครื่งขึ้นไป ทั้งนี้เพราะลูก สุนัขเริ่มเปลี่ยนจากการดูดนมมาเป็นการกินอาหารได้ดี ตั้งแต่ระยะหนึ่งเดือน ถึงเดือนครื่ง ระยะนี้ลูกสุนัขจะสามารถอยู่กินได้ด้วยตัวเองจึงเป็นระยะที่จะหย่านมได้แล้ว และร่างกายมีความแข็งแรงเพียงพอต่อโรคภัยต่าง ๆ แต่ยังต้องการ การดูแลเป็นอย่างดีเนื่องจากอายุน้อยมาก ดังนั้นนอกจากจะเลือกสุนัขที่ สมบูรณ์แข็งแรงแล้วควรดูว่าลูกสุนัขได้รับการถ่ายพยาธิในช่วงอายุ 1 เดือน ต้องได้รับการถ่ายพยาธิอย่างน้อย 1 ครั้ง ส่วนวัคซีนที่ลูกสุนัขสามารถรับการ ฉีดวัคซีน ดือวัคซีนโรคหลอดลมอักเสบติดต่อ (Kennel Cough) ให้อายุ 1 เดือน และวัคซีนโรคลำไส้อักเสบเมื่ออายุเดือนครื่ง ซึ่งในบางพื้นที่อาจมีการระบาดของโรคหัดสุนัข ก็อาจฉีดวัคซีนโรคหัดสุนัขแทนโรคลำไส้อักเสบติดต่อในอายุหนึ่งเดือนครึ่งนี้ เพราะลูกสุนัขทีไดรับการถ่ายพยาธิและฉีดวัคซีนแล้วย่อมจะมีอัตราเสียงต่อโรคพยาธิและโรคนั้นๆน้อยกว่าลูกสุนัขทีไม่เคยได้รับ โปรแกรมใด ๆ เลย นอกจากจะดูโปรแกรมในลูกสุนัขแล้วหากเป็นไปได้ควรดู โปรแกรมทั้งการถ่ายพยาธิและวัคซีนปองกันโรคต่าง ๆ ในแม่สุนัขด้วย ทั้งนี้เพราะแม่สุนัขที่มีการถ่ายพยาธิเป็นประจำจะทำให้ลูกสุนัขมีโอกาสเป็นพยาธิ น้อยลงด้วย ส่วนวัคซีนที่แม่สุนัขได้รับจะมีโอกาสถ่ายทอดภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ สู่ ลูกสุนัขได้ ซึ่งจะมีมากหรือน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับภูมิคุ้มกันโรคในตัวแม่สุนัขเป็นสำคัญ

กรณีลูกสุนัขพันธุ์ผสมหรือลูกสุนัขที่มีพ่อสุนัขและแม่สุนัขต่างสายพันธุ์กัน การกำหนดลักษณะของลูกสุนัขจึงเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าเมื่อโตเต็มที่แล้วลูกสุนัขตัวนี้จะมีลักษณะอย่างไร หากเรามีประสบการณ์ในการเลี้ยง สุนัขหรือมีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสุนัขมานานเป็นหลายๆ ปี คงไม่ยากที่จะ คาดคะเนลักษณะของสุนัขตัวนั้นตั้งแต่อายุน้อย ๆ ส่วนเรื่องนิสัยใจคอยิ่งเป็น เรื่องยากขึ้นอีก

ส่วนลูกสุนัขพันธุ์แท้ในประเทศไทยปัจจุบันนี้มีให้เลือกประมาณ 60 สายพันธุ์ แต่ที่พอหามาเลี้ยงได้ง่าย ๆ คงราวๆ 25 สายพันธุ์ ลักษณะพันธุ์แท้ หมายถึงลักษณะรูปร่างโครงสร้างที่แสดงออกในลูกเหมือนกับลักษณะของพ่อ แม่พันธุ์ ซึ่งลักษณะของสีขนจะมีโอกาสแตกต่างไปจากพ่อแม่ได้มากกว่าลักษณะของรูปร่างโครงสร้าง แต่บางพันธุ์การถ่ายทอดลักษณะของสีขนไม่มี การเปลี่ยนแปลงหรือมีโอกาสแตกต่างจากพ่อแม่พันธุ์น้อยมาก ๆ เช่น เยอรมัน เชพเพิร์ด, โอลด์ องลิชซีพด็อก เชตแลด์ชีพด็อก, ดัชชุนด์, เชาว์เชาว์, โกส เดนรีทรีฟเวอร์, ชิวาวา, โพเมอราเนียน, ปัก, โดเบอร์แมน,รอตต์ไวเลอร์ เป็นต้นดังนั้น การเลือกลูกสุนัขพันธุ์แท้จึงสามารถกำหนดได้ว่าลักษณะรูปร่าง ขนาด และชนิดของขน เมื่อสุนัขโตเต็มที่ตรงตาม ความต้องการหรือไม่ ส่วนรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องสังเกตให้ดีตรงตาม ลักษณะสายพันธุนั้น ๆ จำเป็นต้องศึกษาลักษณะพันธุอย่างละเอียด และหา ประสบการณ์ในการสังเกตดูเปรียบเทียบหลาย ๆ ตัว เพื่อสามารถบอกได้ว่าตัว ไหนสวยกว่าอย่างไร  นอกจากนี้นิสัยใจคอของสุนัขพันธุแท้ในแต่ละพันธุค่อนข้างคงที่ ซึ่งสามารถศึกษาได้ง่าย เช่น คัลเมเชียล, ลาบราดอร์, รีทรีฟเวอร์, ค็อกเกอร์, สเปเนียล มีนิสัยซน ร่าเริง ส่วนสายพันธุเยอรมัน เชพเพิร์ด, คอลลี่, เชตแลนด์ ซีพด็อก, บาสเซต ฮาวนด์, โกลเดนรีทรีฟเวอร์, ปักกิ่ง, โพเมอรา เนียน มีนิสัยสุภาพเรียบร้อย และสายพันธุเชาว์เชาว์, บลูเทอร์เรียร์, โดเบอร์ แมน พ่นเชอร์, รอตด์ไวเลอร์ มีนิสัยค่อนข้างดุร้าย เป็นต้น นิสัยของสุนัข ดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูของเจ้าของ

  • 1. ลักษณะตรงตามสายพันธ์

กรณีที่ลูกสุนัขมีทะเบียนประวัติ (Pedigreed) อย่างน้อยก็พอเชื่อได้ว่า พันธุแท้แน่ๆ แต่ลักษณะของสีขน (marking) จะสวยตรงตามลักษณะพันธุ หรือไม่จำเป็นต้องศึกษาให้ละเอียดและเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อลูกสุนัข    ทั้งนี้เพราะไม่ว่าจะเลือกตัวใดมาเลี้ยง เราต้องเสียเวลาดูแลเลี้ยงและค่าใช้จ่ายในการ เลี้ยงดูเท่ากัน ที่สำคัญนั้นคือลูกสุนัขจะอยู่กับเรานาน 10-15 ปี กรณีสุนัข พันธุใหญ่โดยทั่วไปนอกจากจะเป็นลักษณะของสีแล้วมักจะเป็นในเรื่องของ โครงสร้างรูปร่างที่สมส่วนและใหญ่โตตามลักษณะสายพันธุด้วย

  • 2. อารมณ์ และสุขภาพจิตที่ดี

หากมีโอกาสเลือกลูกสุนัขจากคอกที่มีหลายๆ ตัวจะทำให้สามารถ สังเกตเปรียบเทียบได้ง่ายกว่ามีน้อยตัว ลูกสุนัขที่เหมาะสมในการพรากจากแม่ สุนัขควรมีอายุตั้ง แต่ 6-12 สัปดาห์ ซื้งระยะนี้ลูกสุนัขจะมีพฤติกรรมกิน นอน และเล่น ซื้งการเล่นเป็นพฤติกรรมที่สำคัญของสุนัขเพราะเป็นพฤติกรรมการ เรียนรู้การจัดความสำคัญของสุนัขในกลุ่มที่อยู่รวมกัน การสังเกตลูกสุนัขที่ดีจึง ควรมีลักษณะดังนี้คือ กินดี เล่นดีและที่สำคัญคือการสนใจเรียนรู้สุนัขอื่นหรือ สัตว์อื่นที่แปลกหน้ารวมถึงคนแปลกหน้าด้วย

  • 3. สุขภาพร่างกายสมบูรณ์

ควรเลือกลูกสุนัขที่แข็งแรงสมบูรณ์ เมื่ออุ้มลูกสุนัขไว้ในมือ ควร สังเกตได้ถึงความอุ่นของตัวสุนัข สะอาดและไม่ควรมีพยาธิภายนอกเช่น เห็บ หมัด เหา โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่มีขนที่โค่นหางและขาหนีบของทั้งขาหน้าและ ขาหลัง นอกจากนี้ยังควรสังเกตดังต่อไปนี้

  • เปรียบเทียบนํ้าหนักตัวกับลูกสุนัขตัวอื่นๆในคอกเดียวกัน ลูกสุนัขไม่ ควรอ้วนหรือผอมเกินไป
  • ดูเหงือก สุขภาพที่ดีสีเหงือกจะมีสีชมพู
  • ดูฟัน ควรเรียงเป็นระเบียบในแนวที่ถูกต้อง และฟันบนและฟันล่างควร สบกัน
  • รูหู ใบหูและรูหูควรสะอาด ลังเกตกลิ่นหู ปกติไม่ควรมีกลิ่น
  • ดูท้อง ลูกสุนัขปกติมีท้องขยายกลมเล็กน้อย ถ้ามีขนาดท้องกลมใหญ่และ ตึง มักเกิดจากพยาธิในลำไส้และแก๊สมาก
  • ลูกตา ตาทั้งสองข้างควรมีสีเหมือนกันและบริเวณเปลือกตาไม่ควรมีขี้ตา
  • สังเกตขา ขณะยืนขาหนัาควรตั้งตรง ขาทังสี่ รับน้ำหนักตัวเท่าๆ กัน
  • ข้อขาไม่ควรบวมใหญ่ ขณะเดินขาไม่แกว่งไปมา โดยเฉพาะขาหลัง
  • ดูจมูก ปกติสีดำมีความชุ่มชื้นเล็กน้อย ไม่ควรมีลักษณะแห้งและไม่ควร มีนํ้ามูกที่รูจมูก
  • ดูบริเวณใต้โคนหาง ไม่ควรมีคราบอุจจาระเปรอะเปื้อน ซึ่งแสดงถึง อาการท้องร่วง

 

ฝึกสุนัข

บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

ด้วย 2 ใบประกาศหลักสูตรครูฝึกสุนัขตำรวจและวิทยากรระดับนานาชาติเกี่ยวกับหัวข้อพฤติกรรมของมนุษย์กับสุนัข รวมทั้งให้ความรู้ในคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารสัตว์เลี้ยงชั้นแนวหน้าหลายฉบับอาทิ สื่อรักสัตว์เลี้ยง,แหล่งสัตว์เลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขในโครงการฝึกสุนัขไร้บ้านให้มีบ้านอยู่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

สุนัข

ความรู้ก่อนหัดเลื้ยงสุนัข

ก่อนเลี้ยงลูกสุนัขหน้าตาน่ารักๆ ควรหาความรู้เบื้องต้น

Home / การฝึกสุนัข

img8

ความรู้ก่อนหัดเลื้ยงสุนัข

เจ้าของควรเริ่มฝึกสุนัขตั้งแต่ยังเล็กๆจะง่ายกว่าโดยฝึกให้คุ้นเคยกับการรับคำสั่ง การเดินโดยใช้สายจูง การเล่นเกม สุนัขที่ได้รับการฝึกตั้งแต่เล็กถ้าพฤติกรรมที่ไม่ดีตอนโตจะแก้ไขได้ง่ายกว่าสุนัขที่ไม่ได้รับการฝึกให้เชื่อฟังคำสั่ง

  1. ทรัพยากรบุคคล มีบทบาทสาคัญอย่างยิ่งสาหรับธุรกิจให้บริการ ซึ่งประกอบด้วย สัตวแพทย์ ทีมงานผู้ดูแลและให้บริการสุนัข เจ้าหน้าที่ในแต่ละส่วนงาน รวมถึงคณะครูผู้ฝึกสอนสุนัขตำรวจ
  2. ทรัพยากรทางธรรมชาติ มีบทบาทสาคัญต่อกลยุทธ์ในใช้ในทำเลที่ตั้งของศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ เพราะนอกจากจะสร้างความประทับใจในคุณภาพของการให้บริการสุนัขแล้วเจ้าของก็ควรจะได้รับบรรยากาศที่สวยงามริมถนนวิภาวดี มีต้นไม้และสนามหญ้าสีเขียว รวมถึงอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ
  3. สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องรับรองสาหรับการพักผ่อนของเจ้าของสุนัข บริการรับส่ง ฯลฯ
  4. ระบบสนับสนุนการทำงาน เช่น ระบบฐานข้อมูลลูกค้า เว็บไซต์ของ ศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ ฝึกสุนัขตำรวจ Social Media ต่างๆ และระบบการจองคิวการใช้บริการ เป็นต้น

ในการรับส่ง โดยมีทำเล อยู่ภายในศูนย์ กองกำกับการ สุนัขตำรวจ และมีความร่มรื่นจากต้นไม้และสนามหญ้าสีเขียว รวมถึงการให้บริการที่หลากหลาย ได้คุณภาพมาตรฐาน อีกทั้งยังมีการตรวจรักษาเบื้องต้นจากสัตวแพทย์ จึงเป็นจุดเด่นที่ แตกต่างจากการฝากเลี้ยงสุนัข ฝากหมา ฝากสุนัข และราคาในการฝากยอมเยา จุดเด่นในเรื่องบรรยากาศและการให้บริการที่ครบวงจรกับราคาเป็นตัวกำหนด

  1. Service Mind Staff พนักงานมีใจรักบริการ รักสัตว์ ผ่านการอบรมในเรื่องบุคลิกภาพและการให้บริการ มีความรู้ความสามารถ มีการแก้ปัญหาอย่างมืออาชีพ
  2. Natural ร่มรื่นด้วยต้นไม้สีเขียว เหมือนกับการมาพักผ่อนที่ใกล้ชิดธรรมชาติ
  3. Riverside ตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดี ใน ที่อยู่: 217 หมู่ 1 วิภาวดี รังสิต 27 แขวงตลาดบางเขน หลักสี่ กรุงเทพ ฯ
  4. One Stop Service ศูนย์ให้บริการแบบครบวงจร มีบริการ
         @ มีเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์บริการ 24 ช.ม.
         @ ผู้เชียวชาญด้านพฤติกรรมสุนัข
         @ มีเจ้าหน้าที่ตัดและตกแต่งขนสุนัข (Grooming ) มืออาชีพ
         @ บริการด้วยคุณภาพทั้งการฝึก อาหาร และที่อยู่ของสุนัข
         @ โดยรับฝึกสอนทั้งในและนอกสถานที่
         @ รับฝึกสุนัขในจำนวนจำกัด ต่อ 1 คอร์ส ในราคาย่อมเยา
  5. Dog Park มีสนามหญ้าให้สุนัขและเจ้าของได้ทากิจกรรมร่วมกัน
  6. Clean เป็นร้านที่สะอาด มีการฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันเชื้อโรคและเห็บหมัดต่างๆ
  7. Veterinarian มีสัตวแพทย์ตรวจสุขภาพ และให้คาปรึกษาเบื้องต้น

18

  1. Excellent Service ทั้งสุนัขและผู้เลี้ยงจะได้รับการบริการสุดประทับใจเหมือนคนในครอบครัวจากครูผู้ฝึกสอนที่ผ่านการอบรมและฝึกฝนมาอย่างดี มีความรู้ ประสบการณ์ และแก้ไขปัญหาได้อย่างมืออาชีพ
  2. Product Quality สินค้าทุกอย่างมีการคัดสรรอย่างดี ให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน
  3. Fast Service มีการบริหารจัดการรับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้การบริการที่รวดเร็ว ไม่ให้ลูกค้าต้องเสียเวลารอนานจนเกิน
  4. Health ทำให้สุนัข ที่ได้รับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา สะอาดและมีสุขภำพที่แข็งแรง
  5. Experience เป็นการสร้างประสบการณ์ของผู้เลี้ยงและสุนัขแสนรัก ที่รับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา ในกิจกรรมต่างๆ อาทิ การออกกาลังกายในสนามหญ้า การเล่นเครื่องเล่น การถ่ายภาพ ฯลฯ
  6. Happy เมื่อสุนัขที่รับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา มีความสุข เจ้าของก็จะมีความสุขไปด้วยเช่นกัน
  7. Pleasure เมื่อมาใช้บริการแล้ว ก็จะเกิดความประทับใจทั้งในคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและการให้บริการ รวมไปถึงบรรยากาศและประสบการณ์ที่ได้สร้างร่วมกับสุนัขแสนรัก ที่ได้รับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา
  8. Relax นอกจากสุนัขที่ได้รับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา ได้ผ่อนคลายจากบริการต่างๆ อาทิ อาบน้า ตัดขน สปาคาเฟ่ สนามหญ้า ฯลฯ แล้ว ผู้เลี้ยงก็จะได้มาผ่อนคลายจากความวุ่นวายต่างๆ ได้สัมผัสกับความร่มรื่นของธรรมชาติด้วยเช่นกัน
  9. Convenience ทำเลที่ตั้งสะดวกต่อการเดินทาง กล่าวคือ อยู่ติดถนนถนนวิภาวดี ใน ที่อยู่: 217 หมู่ 1 วิภาวดี รังสิต 27 แขวงตลาดบางเขน หลักสี่ กรุงเทพ ฯ ในบริการที่ดีของศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจและการรับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา
  10. Reasonable Price ราคาสมเหตุสมผล ไม่สูงจนเกินไป คุ้มค่ากับการบริการที่ได้รับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา
  1. Value for money รับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา ระดับพรีเมี่ยมของบรรยากาศ สถานที่ คุณภาพมาตรฐาน และการบริการที่ดีเยี่ยม ทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายออกไป
  2. Reliability รับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา มีความเชื่อถือได้ของคุณภาพมาตรฐานสินค้าและบริการ ทั้งทีมงานสัตวแพทย์และครูผู้ฝึกสุนัขที่ผ่านการฝึกฝนอบรมและวัดผลการปฏิบัติงานอยู่เสมอ
  3. Freedom รับฝากเลี้ยงสุนัข ฝากสุนัข ฝากหมา เป็นการใช้ชีวิตกับธรรมชาติ ทิวทัศน์อันสวยงาม เหมือนการปลดปล่อยให้เป็นอิสรภาพจากความวุ่นวายและความเครียดจากการทางาน

สินค้าและบริการ (Product and Service)
ให้บริการสุนัขแบบครบวงจร มีลักษณะโดดเด่นแตกจากคู่แข่งในเรื่องของบรรยากาศที่ตั้งเน้นธรรมชาติมีต้นไม้และสนามหญ้าสีเขียวเหมาะแก่การพักผ่อนร่วมกันของสุนัขและเจ้าของ มีบริการตรวจสุขภาพและให้คำปรึกษาเบื้องต้นจากสัตวแพทย์ มีการให้บริการที่ดีจากพนักงานที่มีใจให้บริการ รักสัตว์ ผ่านการอบรมบุคลิกภาพ มีความรู้และมีความชำนาญที่ดี โดยมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 2,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการอื่นๆ ที่หลากหลาย คือ การอาบน้ำตัดแต่งขน สปา คาเฟ่ สระว่ายน้ำ สนามวิ่งเล่น บริการรับฝาก บริการรับส่ง โรงแรมที่พัก โรงเรียนฝึกสอนสุนัขตำรวจ ศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ
มากกว่านั้นทางศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจมีบริการเสริม อาทิ Pet Shop การบริการรถอาบน้ำตัดแต่ง ขนเคลื่อนที่ รวมไปถึงการบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับเจ้าของที่พาสัตว์เลี้ยงมาใช้บริการ เพราะด้วยบรรยากาศและสถานที่ของร้านที่มีจุดประสงค์ให้เป็นที่พักผ่อนได้ทั้งสุนัขและเจ้าของ โดย แต่ละบริการมีรายละเอียด ดังนี้

บริการการตรวจสุขภาพและให้คำปรึกษาเบื้องต้นจากสัตวแพทย์

บริการที่พิเศษที่แตกต่างจากร้านอื่นๆ คือการตรวจสุขภาพและให้คำปรึกษาเบื้องต้นจากสัตวแพทย์ เพื่อเป็นการตรวจเช็คสุขภาพสุนัขให้เจ้าของได้ทราบ และหากเจ้าของต้องการรักษา ทางร้านก็สามารถส่งต่อไปยังคลินิกสัตว์ที่เป็น Partner ของทางร้านให้ได้อีกด้วยเช่นกัน

ฝากสุนัข-ผากหมา-ตัดขนสุนัข

2. บริการอาบนำ้ตัดขนสุนัข และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (Grooming)
การอาบน้ำตัดแต่งขนเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการแสดงความรัก การดูแลเอาใจใส่สุนัขแสนรัก เป็นการตรวจสุขภาพเบื้องต้นทั้งขนและผิวหนัง เพื่อสุขภาพที่ดีและเพิ่มชีวิตชีวาให้กับสุนัข Riverside Dog Centerมีบริการอาบน้ า ตัดขนและบริการที่เกี่ยวข้อง โดนช่างฝีมือที่ให้ความใส่ใจดูแล เพื่อให้สุนัขของท่านดูดีที่สุด สะอาด สดใสและมีความสุขโดยมีบริการต่างๆ ดังนี้

1. อาบน้ำ + ตัดขนทรงแฟชั่น + ตัดเล็บ + เช็ดหู

8. บริการพ่น (Frontline Service)

2. ตัดขนทรงแฟชั่น

9. ครีมนวด

3. ตัดขน(ปัตตาเลี่ยน

10. สางสังคตัง, สกปรก, โรคผิวหนัง

4. ตัดขน (กรรไกร)

11. ไถอุ้งท้าว, ท้อง, ก้น หรืออื่นๆ

5. ตัดเล็บ

12. ไถเปิดเท้า

6. เช็ดหู

13. แปรงฟัน

7. แปรงขน

14. บีบต่อมก้น

 

9

สนามหญ้ากว้าง วิ่งเล่นอิสระ เพื่อให้สุนัขออกกำลังกายและได้มีกิจกรรมกับเจ้าของ ในบรรยากาศ สวนสวยร่มรื่นและเป็นส่วนตัว เหมาะกับการมาพักผ่อน อีกทั้งทางร้านก็ยังให้ความสำคัญในความปลอดภัยของสุขจึงมีการสร้างรั้วที่มีความใส

16

ได้เห็นถึงความสำคัญของการฝึกให้สุนัข เพื่อปรับพฤติกรรมความดื้อซนจนเกินงาม และช่วยให้สามารถสื่อสารกับเจ้าของได้มากขึ้น รวมถึงการอยู่ร่วมบ้านกับเจ้าของการเข้าสังคมกับสุนัขตัวอื่นให้มีระเบียบวินัยและไม่สร้างความรำคาญให้ผู้อื่น ด้วยครูผู้ฝึกเป็นครูฝึกสุนัขตำรวจที่มีประสบการณ์มานานและเป็นมืออาชีพ ฝึกสอนตามมาตรฐานสากล โดยมีระยะเวลาการฝึกไม่นานและรับประกันตลอดชีวิตของสุนัข
a. หลักสูตรเชื่อฟังคำสั่งพื้นฐาน ข้ามเครื่องกีดขวางเป็นการฝึกคำสั่ง ชิด นั่ง หมอบ คอย สวัสดี และข้ามเครื่องกีดขวาง 12 ชิ้นโดยกำหนดอายุของสุนัขที่ 5 เดือนถึง 3 ปี
b. หลักสูตรความสามารถพิเศษ เป็นการฝึกให้สุนัขคาบของมาให้ คาบตะกร้า แกล้งตาย พลิกตัว เดิน 2 ขาเดินลอดขา โดดผีจีน โดดห่วง โดดห่วงมือ เล่นจานร่อน ฯลฯ โดยมีข้อกำหนดว่าสุนัขต้องผ่านหลักสูตรเชื่อฟังคำสั่งขั้นพื้นฐานมาก่อนและจะต้องมีอายุในช่วง 6 เดือน ถึง 3 ปี

เป็นบริการที่ช่วยแบ่งเบาภาระและเพิ่มความสะดวกสำหรับผู้เลี้ยงสุนัขที่มีธุระระยะสั้นๆ เพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยจะมีการดูแลจากพนักงานที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี มีการพาออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างที่รอเจ้าของกลับมาจากการทำธุระโดดห่วง โดดห่วงมือ เล่นจานร่อน ฯลฯ โดยมีข้อก าหนดว่าสุนัขต้องผ่านหลักสูตรเชื่อฟังค าสั่งขั้นพื้นฐานมาก่อนและจะต้องมีอายุในช่วง 6 เดือน ถึง 3 ปี

เป็นบริการที่ช่วยแบ่งเบาภาระและเพิ่มความสะดวกสำหรับผู้เลี้ยงสุนัขที่มีธุระ ระยะยาว เช่น เดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ โดยสุนัขจะได้รับความสุขและได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ มีอาหาร 2 มื้อ + Snack มีห้องส่วนตัวกว้าง สะอาด เตียงนุ่ม มีเครื่องฟอกอากาศเครื่องดักยุง ระบบป้องกันเห็บหมัด สัญญาณกันขโมย ของเล่น มีพนักงานพาวิ่งเล่นสนามหญ้าและดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีให้เลือกทั้งแบบห้องแอร์และแบบพัดลม

นอกจากจะมีการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มให้กับเจ้าของศูนย์ฝึกสุนัข ยังให้บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องรับรองสำหรับการพักผ่อนของเจ้าของสุนัขในระหว่างที่รอสุนัขรับบริการจากทางศูนย์ฝึกสุนัข
ให้บริการเพื่อความสะดวก รวดเร็วในการใช้บริการ ดังนี้

(1) Website ของทางศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ และ Social Media ต่างๆ ได้แก่ Facebook,I nstagram, Line และอื่นๆ

(2) ติดต่อทางโทรศัพท์หรือไปที่ศูนย์ฝึกสุนัขตำรวจ โดยตรง ได้ที่เบอร์ 08-7006-2828,08-3000-6538

(3) การออกบูธประชาสัมพันธ์ตามงานต่างๆ
โรงแรมสุนัข บนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ ท่ามกลางธรรมชาติ สถานที่กว้างขวางสะอาด มีมาตรฐาน ให้บริการครบวงจร อาทิ อาบน้า ตัดขน บริการรับฝาก โร งแรม สระว่ายน้า
อาหารสาหรับสุนัข โดยการบริการจะเน้นในการใส่ใจทุกๆ รายละเอียด เช่น การรับฝากเลี้ยงสุนัขจะให้อยู่ในอาคารที่มีการออกแบบระบบควบคุมการแพร่กระจายของเห็บหมัด และสาหรับอาคารอาบน้าถูกสร้างขึ้นอย่างมีสุขลักษณะ เปิดให้บริการในวันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 9.30-18.00 น.จากความมุ่งมั่นที่จะพัฒนามาตรฐานการรักษาพยาบาลและการให้บริการแก่ลูกค้าให้ดีที่สุดด้วยตระหนัก ถึง ความรัก และความผูกพันระหว่างเจ้าของสัตว์เลี้ยง และเพื่อนของเขาเป็นอย่างดี ดั่งเจตนารมณ์ที่บุคลากรของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อได้ยึดถือและปฏิบัติต่อลูกค้าในวันนั้นว่า “Choose the best for your pet”

บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

ด้วย 2 ใบประกาศหลักสูตรครูฝึกสุนัขตำรวจและวิทยากรระดับนานาชาติเกี่ยวกับหัวข้อพฤติกรรมของมนุษย์กับสุนัข รวมทั้งให้ความรู้ในคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารสัตว์เลี้ยงชั้นแนวหน้าหลายฉบับอาทิ สื่อรักสัตว์เลี้ยง,แหล่งสัตว์เลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขในโครงการฝึกสุนัขไร้บ้านให้มีบ้านอยู่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ

กรอกข้อมูลเพื่อสอบถามบริการ

สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสุนัขคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเรา

บริการสอบถามรายละเอียดของ การฝึกสุนัข หรือเรื่องต่างๆ

หรือกรุณากรอกข้อมูลเพื่อสอบถามรายละเอียด