ทุกครั้งที่สุนัขของคุณเห่าหอนเมื่อมีเสียงประทัดในเทศกาล ดึงสายจูงอย่างแรงเวลาพบคนแปลกหน้า หรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่สามารถควบคุมได้ คุณอาจเคยตั้งคำถามในใจ: “นี่ใช่เวลาที่ต้องพาสุนัขไปฝึกกับมืออาชีพอย่างชมรม K9 หรือไม่?”
ชมรมฝึกสุนัขตำรวจ K9 ที่หลายคนคุ้นชื่อ มักถูกมองว่าเป็นสถานที่สำหรับฝึกสุนัขเพื่อปฏิบัติการเฉพาะทางเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง ชมรมเหล่านี้ได้พัฒนาหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ โดยนำเทคนิคและประสบการณ์จากวงการฝึกสุนัขทำงานมาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ ภาพที่ควรนึกถึงคือ:
คุณกำลังหมดความอดทนกับการดื้อของสุนัขหรือไม่?
คุณรู้สึกไม่มั่นใจเวลาพาสุนัขออกสังคม?
สุนัขแสดงพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อตัวเองหรือผู้อื่น?
คุณต้องการให้สุนัขมีทักษะพิเศษบางอย่าง?
การฝากสุนัขฝึกกับชมรม K9 เหมือนกับการส่งลูกไปค่ายพัฒนาทักษะ
ไม่ใช่การทอดทิ้ง แต่เป็นการลงทุนเพื่อให้สุนัขได้รับวิธีการเรียนรู้ที่ถูกต้อง จากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจจิตวิทยาสุนัขอย่างแท้จริง แล้วคุณในฐานะเจ้าของก็จะได้เรียนรู้เทคนิคไปพร้อมกัน
ชมรมฝึกสุนัขตำรวจ K9 ไทย เป็นองค์กรที่พัฒนามาจากประสบการณ์การฝึกสุนัขตำรวจ แต่ปัจจุบันได้ขยายบริการสู่ประชาชนทั่วไป โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างทักษะสุนัขในหลากหลายบทบาท
หลักสูตรปรับพฤติกรรมพื้นฐาน (Basic Obedience)
หลักสูตรการเข้าสังคม (Socialization)
หลักสูตรเฉพาะทาง เช่น สุนัขช่วยเหลือเบื้องต้น
คอร์สฝึกแบบอยู่ประจำ (Board and Train)
บริการฝึกส่วนตัวที่บ้าน (Private Training)
✅ ถูกต้อง: ชมรม K9 มีหลักสูตรสำหรับสัตว์เลี้ยงจริง
❌ เข้าใจผิด: ไม่ได้ฝึกสุนัขทุกตัวให้เป็นสุนัขตำรวจ
✅ ข้อดี: ได้มาตรฐานจากประสบการณ์ฝึกสุนัขทำงานจริง
⚠️ ข้อควรคิด: อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าศูนย์ฝึกทั่วไป
เหมาะมาก:
– สุนัขที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวระดับรุนแรง
– สุนัขที่ต้องการฝึกสำหรับงานเฉพาะทาง
– เจ้าของที่ไม่มีความรู้ในการฝึกเลย
– สุนัขที่ต้องทำงานร่วมกับผู้สูงอายุ/เด็กพิเศษ
อาจไม่จำเป็น:
– สุนัขที่แค่ซนเล็กน้อย
– ปัญหาพฤติกรรมเบื้องต้นที่ฝึกเองได้
– สุนัขสูงอายุที่ปรับตัวยาก
1. การนัดประเมิน (Evaluation Session)
ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ผู้ฝึกประเมินทั้งสุนัขและเจ้าของ
ตรวจสุขภาพพื้นฐานของสุนัข
วิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่บ้าน
2. เอกสารที่ต้องเตรียม
ใบรับรองการฉีดวัคซีนครบ
ประวัติการรักษา (ถ้ามี)
ข้อมูลนิสัยและปัญหาที่พบ
วีดีโอพฤติกรรมสุนัขในชีวิตประจำวัน
3. คำถามที่ควรถามชมรมก่อนตัดสินใจ
ผู้ฝึกมีคุณวุฒิและประสบการณ์อย่างไร?
ใช้หลักการฝึกแบบใด (Positive reinforcement/ Balanced/ ฯลฯ)
สามารถดูพื้นที่ฝึกได้หรือไม่?
มีการอัพเดทความคืบหน้าอย่างไร?
รับรองผลการฝึกหรือไม่?
หลักสูตรพื้นฐาน (4 สัปดาห์):
– ฝึกแบบไป-กลับ: 15,000 – 25,000 บาท
– ฝึกแบบอยู่ประจำ: 30,000 – 45,000 บาท
หลักสูตรพฤติกรรม (8 สัปดาห์):
– ฝึกแบบไป-กลับ: 25,000 – 35,000 บาท
– ฝึกแบบอยู่ประจำ: 50,000 – 70,000 บาท
หลักสูตรเฉพาะทาง: เริ่มต้น 50,000 บาทขึ้นไป
สุขภาพ – ตรวจสุขภาพให้พร้อม กำจัดพยาธิ
อุปกรณ์ – สายจูง ปลอกคอ ของเล่นที่ชอบ
อาหาร – นำอาหารเดิมไปต่อเพื่อลดความเครียด
ข้อมูล – จดบันทึกพฤติกรรมเฉพาะตัว
ตารางกิจกรรมประจำวัน:
06.00 – 07.00 : ปล่อยให้เข้าห้องน้ำ ออกกำลังกายเบาๆ
07.00 – 08.00 : ให้อาหารเช้า
08.00 – 11.00 : ฝึกภาคเช้า (ฝึกจริง 2-3 ครั้ง ครั้งละ 15 นาที)
11.00 – 14.00 : พักผ่อนในคอก
14.00 – 17.00 : ฝึกภาคบ่าย + การเข้าสังคม
17.00 – 18.00 : ให้อาหารเย็น
18.00 – 20.00 : เวลาผ่อนคลาย ฝึกอยู่ในกรง
20.00 – 22.00 : พักผ่อนก่อนนอน
พื้นฐานที่จำเป็น
การเรียกมาหา (Recall)
การเดินด้วยสายจูงอย่างสงบ
การนั่ง-หมอบ-คอย
การหยุดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
การแก้ปัญหาพฤติกรรม
การเห่าเกินเหตุ
ความก้าวร้าว
ความวิตกกังวลในการแยกจาก
การทำลายข้าวของ
ทักษะเพิ่มเติม
การอยู่ในกรงอย่างสงบ
การทนต่อสิ่งเร้า
การสื่อสารกับเจ้าที่ชัดเจนขึ้น
❌ ห้ามทำ:
ไปเยี่ยมบ่อยเกินไป (รบกวนกระบวนการฝึก)
ฝึกสุนัขด้วยวิธีอื่นขณะที่ชมรมกำลังฝึก
คาดหวังเปลี่ยนพฤติกรรมข้ามคืน
✅ ควรทำ:
ร่วม Session การฝึกกับผู้ฝึก (ส่วนใหญ่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง)
ฝึกตามคำแนะนำที่ได้รับอย่างเคร่งครัด
อัพเดทปัญหาหรือความกังวลกับผู้ฝึก
เตรียมบ้านให้พร้อมรับสุนัขกลับ
รายงานประจำสัปดาห์ จากผู้ฝึก
วีดีโออัพเดท พฤติกรรมและการฝึก
Line Group สำหรับสอบถามปัญหาด่วน
นัดหมายพบปะ ทุก 1-2 สัปดาห์
ขั้นตอน Hand-over (สำคัญมาก!):
Orientation Session (2-3 ชั่วโมง)
ผู้ฝึกสอนเจ้าของใช้คำสั่งและเทคนิค
สาธิตการแก้ปัญหาพฤติกรรม
ถามตอบข้อสงสัย
Transition Period (1-2 สัปดาห์แรก)
ค่อยๆ ปล่อยสุนัขกลับสู่ชีวิตปกติ
ยังต้องฝึกสั้นๆ ทุกวัน
ยังไม่ควรเปลี่ยนกิจวัรตร่างเร็วเกินไป
Follow-up Sessions
นัดติดตามผล 1 สัปดาห์หลังรับกลับ
นัดติดตามผล 1 เดือนหลังรับกลับ
นัดตามความจำเป็น
พื้นที่ที่ต้องจัดการ:
✓ ห้องนอน/พื้นที่ส่วนตัวของสุนัข
✓ จัดระบบการให้อาหารและน้ำ
✓ เตรียมของเล่นและกิจกรรมทางใจ
✓ กำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับทุกคนในบ้าน
ตารางฝึกหลังกลับบ้าน:
เดือนที่ 1-3:
– ฝึกวันละ 15-20 นาที แบ่งเป็น 2-3 ช่วง
– รักษากฎเกณฑ์ให้คงเส้นคงวา
– นัดติดตามผลตามกำหนด
เดือนที่ 4-6:
– ฝึกวันละ 10-15 นาที
– เพิ่มสิ่งรบกวนในการฝึก
– พบผู้ฝึกทุก 1-2 เดือน
เดือนที่ 7 เป็นต้นไป:
– ฝึกสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
– รักษาทักษะพื้นฐาน
– ติดต่อเมื่อมีปัญหาใหม่
ติดต่อชมรมทันทีเมื่อ:
พฤติกรรมเก่ากลับมาอย่างรุนแรง
มีพฤติกรรมใหม่ที่ไม่เข้าใจ
สุนัขแสดงความเครียดหรือวิตกกังวลต่อเนื่อง
มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในครอบครัว
สามารถจัดการเองได้:
ทำผิดคำสั่งบางครั้ง
ต้องการปรับเทคนิคเล็กน้อย
คำถามทั่วไปเกี่ยวกับการดูแล
ผลลัพธ์ที่ควรคาดหวัง:
สุนัขเข้าใจคำสั่งพื้นฐานและปฏิบัติตาม
พฤติกรรมปัญหาเดิมลดลง 70-90%
คุณมีความรู้ในการจัดการสุนัขมากขึ้น
ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับสุนัขดีขึ้น
สิ่งที่ฝึกไม่ได้:
ทำให้สุนัขเปลี่ยนนิสัยพื้นฐาน (สายพันธุ์)
รักษาปัญหาสุขภาพทางกาย
รับประกันพฤติกรรม 100% ตลอดชีวิต
เปลี่ยนสุนัขให้เป็นหุ่นยนต์ที่เชื่อฟังทุกคำสั่ง
Hotline คำปรึกษา (6 เดือนแรก)
Refresher Course ในราคาพิเศษ
Community Group เจ้าของศิษย์เก่า
Workshop รายเดือน ฟรีสำหรับศิษย์เก่า
มีปัญหาพฤติกรรมรุนแรงที่จัดการเองไม่ได้
ต้องการมาตรฐานการฝึกระดับสูง
เตรียมสุนัขสำหรับงานเฉพาะทาง
มีงบประมาณพร้อมและต้องการผลลัพธ์แน่นอน
ปัญหาไม่รุนแรง ฝึกเองได้ด้วยความรู้พื้นฐาน
งบประมาณจำกัด
สุนัขมีอายุมากและปรับตัวยากกับสิ่งแวดล้อมใหม่
สามารถอุทิศเวลาในการฝึกได้สม่ำเสมอ
“การฝึกสุนัขที่ได้ผลดีที่สุด เกิดขึ้นเมื่อทั้งสุนัข และเจ้าของ เรียนรู้ไปพร้อมกัน
ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด จงจำไว้ว่าการฝึกคือการเดินทางร่วมกัน
ไม่ใช่การมอบหมายให้คนอื่นเปลี่ยนสุนัขให้คุณ”
ชมรมฝึกสุนัขตำรวจ K9 ไทย
ยินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นฟรี
📞 087-006-2828
🌐 ฝึกสุนัข.com
📍 สอบถามสาขาใกล้บ้านคุณ
ด้วย 2 ใบประกาศหลักสูตรครูฝึกสุนัขตำรวจและวิทยากรระดับนานาชาติเกี่ยวกับหัวข้อพฤติกรรมของมนุษย์กับสุนัข รวมทั้งให้ความรู้ในคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารสัตว์เลี้ยงชั้นแนวหน้าหลายฉบับอาทิ สื่อรักสัตว์เลี้ยง,แหล่งสัตว์เลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขในโครงการฝึกสุนัขไร้บ้านให้มีบ้านอยู่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ
เปรซา คานาริโอเป็นสุนัขขนาดใหญ่ที่มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะคานารีของสเปน พวกมันถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นสุนัขทำงานอเนกประสงค์ ทั้งล่าสัตว์ คุ้มครองปศุสัตว์ และปกป้องทรัพย์สิน ด้วยรูปลักษณ์ที่ทรงพลังและน่าเกรงขาม ทำให้พวกเขาได้รับฉายา “ยักษ์ใหญ่แห่งหมู่เกาะคานารี
โรดีเชียน ริดจ์แบ็กเป็นสุนัขขนาดใหญ่ที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาใต้ เดิมถูกพัฒนาขึ้นโดยชาวแอฟริกันเพื่อ ล่าเสือโคร่ง และปกป้องฟาร์ม จากความสามารถอันน่าทึ่งนี้ทำให้พวกเขาได้รับฉายา “African Lion Hound” ปัจจุบันเป็นทั้งสุนัขล่าเหยื่อ สุนัขคุ้มกัน และสัตว์เลี้ยงในครอบครัว
ดัชชุนด์ (Dachshund) สุนัขไส้ก
มินิเจอร์ พินเชอร์ King of Toy
จินโดเป็นสุนัขพันธุ์ดั้งเดิมจากเกาะจินโด ประเทศเกาหลีใต้ เป็นสายพันธุ์ที่รู้จักกันในเรื่อง ความซื่อสัตย์ สัญชาตญาณการล่าที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการปรับตัวได้อย่างน่าทึ่ง จินโดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของเกาหลีใต้หมายเลข 53
ด็อกโก อาร์เจนติโนเป็นสุนัขล่าเหยื่อขนาดใหญ่ที่ถูกพัฒนาขึ้นในอาร์เจนตินาเพื่อการล่าสัตว์ใหญ่ โดยเฉพาะหมูป่าและพูมา พวกมันเป็นสุนัขที่ แข็งแกร่ง กล้าหาญ และมีพลังกายสูง แต่ก็อ่อนโยนและรักครอบครัว เนื่องจากมีพละกำลังและสัญชาตญาณการล่าสูง จึงเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะกับผู้เลี้ยงที่มีประสบการณ์เท่านั้น