- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วย
- ปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัย
- จัดเตรียมอาหารที่มีคุณค่าและนํ้าสะอาดไว้
- ฉีดวัคซีน
เลี้ยงสุนัขให้สุขภาพแข็งแรง
การเลี้ยงสุนัขเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและเติมเต็ม แต่สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมพร้อมและเข้าใจความรับผิดชอบก่อนตัดสินใจรับเลี้ยงสุนัข
Home / การฝึกสุนัข
การเตรียมความพร้อมในการเลี้ยงสุนัข ประกอบไปด้วย
- การเตรียมความพร้อมในด้านผู้เลี้ยง ได้แก่ ความร้ด้านสายพันธุ และ ความรู้ด้านวิธีการเลี้ยง
- ความพร้อมในด้านสถานที่ ได้แก่ ที่อยู่อาศัยที่ออกกำลังกาย และเครื่องใช้
การเลือกสุนัขมาเลี้ยง มีหลักพิจารณาดังนี้
- สภาพตัวสุนัข – ตาสะอาด,แววตาสดใส – หู สะอาด,ไม่มีกลิ่นเหม็น,ไม่พบขึ้นหูเกรอะกรัง– จมูก มีความชุ่มชื้น,ไม่มีนี้ามูกเกรอะกรัง – ปาก เหงือกมีสีชมพู,ไม่มีหินปูนเกาะ– ท้องไม่มีตุ่มหนองผื่นแดง – ทวารหนักสะอาด – ขนไม่แห้งหยาบ
- ลักษณะท่าทาง – ร่าเริง ไม่เซื่องซึม– วิ่งเล่นปกติ
- การดูแลที่ตัวสุนัข ได้แก่
– การให้อาหาร – การอาบน้ำ – การแปรงขน – การทำความสะอาดหู
– การทำความสะอาดตา – การตัดเล็บ – การตรวจสุขภาพ - การดูแลที่สภาพแวดล้อม ได้แก่ – ที่อยู่อาศัย – เครื่องใช้
- โรคที่เกิดจากเชื้อโรค ได้แก่ เชื้อไวรัส, เชื้อแบคทีเรีย และ เชื้อรา
- โรคที่เกิดจากการขาดสารอาหาร
- โรคที่เกิดจากสิ่งมีพัษ
- โรคทางพันธุกรรม
- โรคที่มาจากพวกปรสิต
1. เชื้อโรค 2. สภาพตัวสุนัข 3. สภาพแวดล้อม
- คนหรือสัตว์ที่ป่วย
- เครื่องมือเครื่องใช้
- สิ่งแวดล้อม
1.ทางปาก
2.ทางจมูก
3.ทางตา
4. ทางผิวหนัง
5. ทางอวัยวะสืบพันธุ
ประเภทของอาหารสุนัข
อาหารสุนัขมีหลายประเภท ซึ่งจะแตกต่างกันไปในด้านของรสชาติ คุณภาพ ราคา และ คุณค่าทางอาหาร แต่พอจะแบ่งออกได้คร่าว ๆ ดังนี้
- อาหารปรุงเอง หรือ อาหารที่เหลือจากคนรับประทาน
ได้มาจากการนำเอาเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ เมล็ดพืชต่าง ๆ และผักนำมาผสมรวม กัน และ ปรุงให้ สัตว์กินวัตถุดิบไม่แน่นอน ยุ่งยากในการเตรียม รสชาติไม่แน่นอน สารอาหารไม่ ครบถ้วน คือได้มากเกินหรือน้อยเกินไป มักจะขาดแร’ธาตุที่จำเป็นสำหรับสุนัข วางให้กินได้ไม่นานเพราะจะบูดเร็ว
- อาหารสดแช่แข็งบรรจุถุง
ได้จากเศษเนื้อ เศษเครื่องใน และเนื้อติดกระดูกที่คนบริโภคไม่ได้ คุณค่าทางสาร อาหารไม่แน่นอน และน้อยหว่าอาหารสำเร็จรูปเนื่องจากมีนี้าเป็นองค์ประกอบสูง ( 65—75 ) ต้องเสียเวลาในการปรุง ต้องเก็บแช่แข็งตลอดเวลาจนกว่าจะนำมาใช้ และไม่สามารถเก็บสำรอง ไว้ได้มาก จึงต้องหาซื้อบ่อย เสี่ยงต่อการเกิดโรคพยาธิ ถ้าหากต้มไม่สุก วางให้กินได้ไม่นานเพราะ จะบูดเร็ว
- อาหารสำเร็จรูป
- อาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ดแห้ง
ได้จากวัตถุดิบ ที่กำหนดให้เป็นอาหารสำหรับสุนัขหลายชนิดรวมกัน ในสัด ส่วนที่สมดุล มีลักษณะเป็นเม็ดกรอบ มีรูปร่างหลากหลายแบบ และยังช่วยในการขัดพืน ทำให้เหงือกแข็งแรง มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน เนื่องจากผ่านการคำนวณสารอาหารตามความต้องการ ของสุนัข ตามระยะต่าง ๆ ของการเติบโตได้ครบถ้วนและสมดุลมีส่วนประกอบของเยื่อใย ในระดับที่พอเหมาะซึ่งช่วยในการย่อยและขับถ่าย สามารถซื้อเก็บ สำรองไว้ได้ในจำนวนมาก โดยไม่บูดเสีย อีกทั้ง สะดวกในการใช้
เมื่อมองในด้านคุณค่าทางอาหารแล้ว ราคาจะถูกกว่าอาหารกระป้อง หรือ อาหารปรุง เนื่องจากเป็นน้ำหนักที่ไม่มีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก ผ่านขบวนการความร้อนมาแล้ว จึงปราศจากเชื้อโรคและพยาธิ
- อาหารกระป้อง
เป็นอาหารที่สุนัขชอบกินมากกว่าอาหารแห้ง เนื่องจากนิ่มกว่า เปิดกระป้อง ใช้ได้ทันที และสามารถใช้เลี้ยงร่วมลับอาหารสำเร็จรูปชนิดอื่นได้ มีอัตราส่วนของน้ำอยู่ประมาณ 70 %
- ขนม
- อาหารกึ่งเปียกกึ่งแห้ง
มีคุณค่าทางอาหารห้อยกว่าอาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ด มีลักษณะนุ่มอ่อนตัว กว่าอาหารแห้ง แต่มีน้ำน้อยกว่าอาหารกระป้อง มีความชื้นประมาณ 40^0 สุนัขชอบกินมาก มักใช้ สำหรับการแกสุนัข
ขนมปังกรอบ มีคุณค่าทางอาหารแตกต่างกันชื้นกับชนิดและวัตถุประสงค์ มี ความชื้นประมาณ 10 % มีหลายรูปแบบให้เลือก มักใช้สำหรับการแกสุนัข หรือเป็นอาหารเสริม
สุนัขจะกินอาหารได้มากน้อยนั้นยังมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ฃึ่งอาจจะ แบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 2 ปัจจัยดังนี้
- ปัจจัยของตัวสุนัข
- พันธุ เช่น พันธ์เล็กจะกินอาหารได้น้อยกว่าพันธุขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เพราะมี ความจำกัดในด้านขนาดของความจุกระเพาะอาหาร
- ช่วงอายุ เช่น สุนัขช่วงอุ้มท้อง และเลี้ยงลูกจะกินอาหารมากกว่าช่วงปกติ เนื่องจาก ต้องการสารอาหารและพลังงานในการเติบโตของลูกในท้อง และในการผลิตนั้านมเลี้ยงลูก
- เพศ เช่น เพศผู้มักจะกินอาหารมากกว่าเพศเมียเนื่องจากเพศผู้มักจะมีขนาดของโครง สร้างใหญ่กว่าเพศเมีย
- สุขภาพ สุนัขที่มีร่างกายสมบูรณ์ จะกินอาหารมากกว่าสุนัขที่ป่วย หรือเป็นโรค เนื่อง จากความอยากอาหารลดลง และอาจพบว่า สุนัขจะเอาแต่นอนไม่ยอมสุงสิงกับตัวอื่น
- นิสัยในการกินอาหาร บางตัวจะกินไม่เลือก แต่บางตัวจะเลือกมาก
- กิจกรรมในแต่ละวัน สุนัขที่เลี้ยงปล่อยอย่างอิสระได้วิ่งเล่น หรือสุนัขที่ไว้ใช้งานจะกิน อาหารมากกว่าสุนัขที่เลี้ยงแบบขังไว้ในกรง เนื่องจากสุนัขใช้งานใช้พลังงานมากกว่าปัจจัยภายนอก
- ชนิดของอาหาร
อาหารสด และอาหารกระป้อง สุนัขส่วนใหญ่ชอบกิน เนื่องจากตัวเนื้ออาหารอ่อน นุ่ม เคี้ยวง่าย แต่คุณค่าทางอาหารมีน้อยกว่าอาหารชนิดเม็ดแห้ง
- วิธีการให้อาหาร อาหารแห้งล้วน ๆ ผสมนํ้าอุ่น ผสมอาหารกระป้อง
- สภาพของโรงเรือน
เลี่ยงแน่นเกินไป เปียกชื้น สกปรก การระบายอากาศไม่ดี หรือไม่เพียงพอ ทำให้ สุนัขเกิดความเครียด และสุขภาพไม่สมบูรณ์
- วิธีการเลี้ยง
จำนวนมื้อต่อวัน การให้อาหารแบบกลุ่ม หรือเดี่ยว สถานที่เลี้ยง การเลี้ยงแบบตามใจ
- สภาพภูมิอากาศ ร้อนเกินไปความชื้นสูง ฝนตกฟ้าร้อง วิธีการให้อาหารสุนัข
ระยะการเจริญเติบโต
จำนวน มื้อ/วัน
วิธีการให้
เตรียมหย่านม(3 —4สัปดาห์ )
4
อาหารแช่นำอุ่นให้นิ่ม คนให้แหลก
ผสมน้ำนม หรือน้ำซุป
หย่านม (4-8 สัปดาห์ )
4
อาหารแช่น้ำอุ่นให้นิ่ม ผสมอาหาร
กระป้องหรือไม่ก็ได้ ปรับอาหารเพิ่มชื้น ทุกสัปดาห์
สุนัขเล็ก (8 สัปดาห์ — 6 เดือน )
3
อาหารแช่น้ำอุ่นให้นิ่ม ผสมอาหาร
กระป้อง หรือไม่ก็ได้ ปรับอาหารเพิ่ม ทุก ๆ สัปดาห์
สุนัขรุ่น(6เดือน — 1ปี)
2
อาหารแห้ง ผสมอาหารกระป้องหรือไม่ ก็ได้ ปรับอาหารทุก 2 สัปดาห์
สุนัขโต ( มากกว่า 1 ปี )
1
อาหารแห้งผสมอาหารกระป้องหรือไม่ก็
ได้ ปรับอาหารตามความเหมาะสม โดย ดูสภาพของสุนัขเป็นหลัก
ช่วงอุ้มท้อง หลังผสม — 45 วัน
1
อาหารแห้งหรือแช่น่าอุ่นให้นิ่ม กรณีที่แม่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ
ด้วย 2 ใบประกาศหลักสูตรครูฝึกสุนัขตำรวจและวิทยากรระดับนานาชาติเกี่ยวกับหัวข้อพฤติกรรมของมนุษย์กับสุนัข รวมทั้งให้ความรู้ในคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารสัตว์เลี้ยงชั้นแนวหน้าหลายฉบับอาทิ สื่อรักสัตว์เลี้ยง,แหล่งสัตว์เลี้ยงและช่วยเหลือสุนัขในโครงการฝึกสุนัขไร้บ้านให้มีบ้านอยู่
บริการฝึกและฝากเลี้ยงสุนัขทุกสายพันธ์แก้ไขพฤติกรรมทุกพฤติกรรมตามที่เจ้าของต้องการ