เป็นโรคติดต่อที่เกิดกับสัตว์หลายชนิด รวมทั้งสุนัขและคนด้วย สาเหตุเกิดจากเชื้อ leptospira ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่ตับและไต

อาการ มีหลายรูปแบบ ขึ้นกับชนิดและความรุนแรงของการติดเชื้อ กล้ามเนื้อและไต เป็นอวัยวะที่เชื้อเข้าไปทำลายมากที่สุด ดังนั้นจึงทำให้สุนัขมีความเจ็บปวดกล้ามเนื้อ ไม่ค่อยเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวด้วยความเจ็บปวด ส่วนอาการอื่นๆ จะพบ มีไข้ ซึม เบื่ออาหาร และมีภาวะดีซ่าน (เหลืองตามเยื่อเมือกต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ตาและเหงือก) ถ้าไตเสีย สุนัขจะห้องเสีย อาเจียน มีแผลหลุมในปาก ซึ่งต่อมาสุนัขจะขาดนํ้าและตายในที่สุด

การแพร่เชื้อโรค ปัสสาวะของสัตว์ป่วยและสัตว์เพิ่งหายป่วย เป็นแหล่งที่มีเชื้อโรคจำนวนมาก ดังนั้นการสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง หรือ สัมผัสกับสิ่งอื่นๆ ที่แปดเปี้อนปัสสาวะมีเชื้อโรคจะทำให้เกิดโรคได้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าสามารถติดต่อโดยการกินเนื้อที่ติดเชื้อ โรคนี้สามารถติดต่อจากสัตว์ ถึงคนได้ ปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคนี้ถูกนำไปรวมกับวัคซีนป้องกันไข้หัดสุนัข และโรคตับอักเสบติดต่อ ดังนั้นโปรแกรมการป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีสจึงควบคู่กับสองโรคนี้เสมอ

การรักษา ประกอบด้วย

  1. ให้ยาปฏิชีวนะ พบว่า เพนนิซัลลิน และไดไฮโดรสเตรปโตมัยชิน ให้ผลดีในการรักษา
  2. รักษาเพื่อพยุงสุภาพสัตว์ เช่น การให้สารนํ้าและสารอาหาร

• ประโยชน์ใช้สอยที่ไม่ธรรมดา เช่น สุนัข Lhasa Apso เป็นสุนัขที่ลามะในธิเบตเลี้ยงไว้เพื่อระวังภัย และยังถือว่าเป็นสัญญลักษณ์แห่งโชคลาภอีกด้วย สำหรับสุนัขพันธุ์ เชาเชา ซึ่งถือกำเนิดในมองโกเลียเมื่อ 3,000 ปีก่อน แรกเริ่มเดิมที ก็เป็นสุนัขที่ถูกใช้ในสงครามอยู่ดีๆ แต่ต่อมากลับถูกชาวจีนฆ่าเป็นอาหาร และนำเอาขนสัตว์ไปทำเครื่องนุ่งห่มเสียนี่ ช่างน่าอาภัพนัก ว่ากันว่า ในปัจจุบันนี้ชาวเกาหลี ส่วนหนึ่งยังนิยมกินเนื้อสุนัขเชาเชา และ พูเดิ้ลสีแดง อยู่ โดยถือว่าเป็นอาหารอันโอชะชั้นเหลาทีเดียว